วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

10 ผู้ติดโผเข้าชิงรางวัล “Design by creation”

ได้มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับผู้เข้ารอบ 10คนสุดท้ายการส่งประกวดบทความในTeem blog โครงการ “Design by creation season1” สำหรับการตัดสินผู้ชนะ ได้มีการลงความเห็น จากหัวหน้าแผนกทุกท่านอย่างเป็นเอกฉันท์ ว่าให้ชาวธีม ทุกคน มีส่วนร่วมในการตัดสิน โดยการโหวต แต่ละท่านสามารถโหวตให้ใครก็ได้ 1คน คนละ1บทความ (เฉพาะบทความที่มีรายชื่อเข้าชิงรางวัล) เท่านั้น เราจะทำการโหวตกันในงาน Teem blog private party โหวตกันสดๆ ให้เห็นจะๆกัน ไปเลย ซึ่งแต่ละคนที่โหวตนั้น ต้องบอกด้วยว่า โหวตให้ใครพร้อมบอกเหตุผล ในการโหวตด้วย ใครได้คะแนนโหวตมากสุด เอาเงินรางวัลไปเลยจ้า จากนั้นเชิญทุกท่านปาร์ตี้ตามอัธยาศัย แหม่!แต่ไฮไลท์มันอยู่ตรงนี้ค่ะทุกท่าน เพิ่งมาถึงล่าสุด สดๆร้อน กับ 10 บทความ ที่ได้รับคัดเลือกเข้าชิงรางวัล และผู้ที่ได้รับการเสนอเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล มีดังต่อไปนี้ค่ะ

ชื่อผู้เข้ารอบ รายชื่อบทความ

อั๋น อั๋น T1 ในฐานะคนไทยคุณรู้สึกอย่างไรกับแบบรัฐสภาใหม่

พี่ปู T2 มหาวิหารอาเมียง

พี่ นิ T3 พื้นน่ารู้

อ๊อต อ๊อต T4 ผู้ชายดินดิน

อุ้มรัก T5 ดีไซน์นั้น สำคัญยิ่งจริงหรือ

พี่โอ๋ tech T6 การออกแบบปะทะศาสตร์การทำอาหาร

พี่มินท์ T7 การออกแบบที่ผิดพลาด

เอกกี้ T8 Mexican Style

พี่โอ๊ต T9 เฮือนล้านนา เจ้า

พี่มินท์ T7 10นวัตกรรมออก แบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม

ใน 10 บทความนี้ ใครจะได้เงินรางวัลไปครอง มาลุ้นกันนะจ๊ะ ย้ำอีกที งานเริ่ม ศุกร์นี้ หกโมงเย็น

ในงานมีอาหารว่างและเครื่องพร้อมค่า เตรียมตัวให้ดี แล้วไป Enjoy the party กันทุกคนนะค๊า สวัสดีค่า

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

เฮือนล้านนา....เจ้า


เฮือนล้านนาประยุกต์











เฮือนล้านนาประยุกต์

เรื่อง “บ้านและสวนเชียงใหม่ โอ๊ดจึงขอเสนอเฮือนล้านนาประยุกต์ที่ออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เข้ากับวิถีชีวิตในปัจจุบัน แต่ยังใช้รูปลักษณ์ของเฮือนล้านนาดั้งเดิมมาเป็นส่วนประกอบ เอือนล้านนาดั้งเดิมนั้นมีลักษณะเป็นเรือนมีใต้ถุน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่เรียกว่า “เติ๋น” (หรือชานของเรือนไทยภาคกลาง) เป็นเสมือนพื้นที่ส่วนกลางสำหรับให้สมาชิกในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน รูปทรงหลังคาจะมีลักษณะคุ้ม มีองศาลาดชัน เป็นเรือนสองชั้นสองห้องนอน พื้นที่ชั้นล่างจอดรถได้ 1 คัน มีห้องรับแขกพักผ่อนพร้อมห้องน้ำ รวมทั้งส่วนครัว-ส่วนรับประทานอาหาร บันไดทางขึ้นเป็นแบบลอยตัวลักษณะกึ่งเอ๊าต์ดอร์ มีบ่อปลา-บ่อบัวให้ดูชุ่มชื่น ขึ้นไปสู่ชั้นบนเป็นส่วนเติ๋นใช้รับแขกพักผ่อนทำกิจกรรม มีห้องพระและแยกทางเข้าสู่ห้องนอนเป็นสัดส่วนต่างหาก บ้านหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 170 ตารางเมตร ปลูกในที่ดินขนาด 45 ตารางวาขึ้นไป หน้ากว้าง 13 เมตร เป็นอย่างน้อย งบการก่อสร้างประมาณ 1.7-2 ล้านบาท
*** ถ้าเป็นไปได้ควรวางตำแหน่งทางเข้าบ้านให้หันไปทางทิศเหนือจะเหมาะสมที่สุด
ออกแบบ : ศุภวัฒน์ อริญชยวัฒน์ภาพประกอบ : มาโนช กิตติชีวัน
*คราวหน้าจะหาแบบเรือนหอมาให้ดูนะคับ.......คอยติดตามตอนต่อไป

ลิงกับลา


หญิงชาวบ้านคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อม ด้วยความเหงานางจึงหาสัตว์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนสองตัว คือ ลิงและลา วันหนึ่งหญิงชาวบ้านคนนี้ต้องออกไปตลาดเพื่อซื้ออาหาร ก่อนออกจากบ้านเธอได้เอาเชือกมาผูกคอลิง แล้วมัดขาของลาเอาไว้ทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวเดินย่ำไปมาในกระท่อมจนทำให้ข้าวของต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย


ทันทีที่หญิงชาวบ้านออกจากบ้านไป ลิงซึ่งมีความฉลาดและแสนซนเป็นคุณลักษณะประจำตัวก็ค่อย ๆ คลายปมเชือกออกจากคอของมัน อีกทั้งยังซุกซนไปแก้เชือกมัดขาให้แก่ลาอีกด้วย หลังจากนั้นเจ้าลิงก็กระโดดโลดเต้น ห้อยโหนโจนทะยานไปทั่วกระท่อมจนทำให้ข้าว ของต่างๆ ล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่ว อีกทั้งยังซุกซนรื้อค้นเสื้อผ้าของหญิงชาวบ้านมาฉีกกัดจนไม่เหลือชิ้นดี ในขณะที่ลาได้แต่มองดูการกระทำของเจ้าลิงอยู่เฉย ๆ


สักครู่หนึ่ง หญิงชาวบ้านคนนี้ก็กลับมาจากตลาด เจ้าลิงมองเห็นเจ้าของเดินมาแต่ไกลจากทางหน้าต่าง ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้ อย่างเดิมและอยู่อย่างสงบนิ่ง

ฝ่ายหญิงชาวบ้านเมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้ามาเห็นข้าวของของตนถูกรื้อค้น กระจุยกระจายเช่นนั้นก็เกิดโทสะขึ้นทันที หันมองลิงและลาเพื่อดูว่าใครเป็นผู้ก่อเรื่อง และเห็นว่าลาไม่มีเชือกผูกขาดังเดิม เธอก็คิดเอาเองว่าเจ้าลานี่เองคือตัวปัญหา ทำให้กระท่อมของเธอมีสภาพไม่ต่างจากโรงเก็บขยะ ดังนั้นหญิงชาวบ้านจึงวิ่งไปหยิบท่อนไม้นอกบ้านมาทุบตีลาอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าลาผู้น่าสงสารก็ได้แต่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจนสิ้นใจโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย


เธอทั้งหลาย...


เธอหลายคนคงไม่ค่อยชอบตอนจบของนิทานเรื่องนี้นัก เพราะสงสารเจ้าลาที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรแต่กลับถูกเจ้าของทำโทษจนตาย ส่วนเจ้าลิงซึ่งเป็นต้นเหตุแท้ๆ กลับรอดพ้น และไม่ได้รับผลกรรมใดๆ แต่แท้ที่จริงแล้วนิทานเรื่องนี้ ต้องการชี้ให้เห็นถึง ความเป็นผู้นำ ของหญิงชาวบ้านที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็นแล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสพการณ์ส่วนตัว เธอมองเห็นข้าวของเสียหายและมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก แล้วตัดสินว่าลาคงเป็นผู้กระทำ แต่ไม่ได้มองว่าลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก และไม่มีนิสัยชอบรื้อทำลาย เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่ก็คิดว่าลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ แต่มองไม่ออกว่าผู้น่าจะแก้ปมเชือกได้และมีนิสัยชอบรื้อทำลายนั้นคือ ลิง ความจริงถ้าเธอรู้จักสำรวจร่องรอยความเสียหายเสียสักเล็กน้อย เธอก็จะพบรอยเท้าและฟันของลิงกระจายไปทั่วห้อง แต่ไม่พบรอยเท้าของลาเลย เพราะลาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน

เหตุที่องค์กรของเราต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำ ที่ "ปล่อยให้ลิงสร้างปัญหา แต่ลารับเคราะห์" ลาก็เหมือนกับคนที่ปฏิบัติงานได้ตามหน้าที่ แต่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง พูดจาตรงไปตรงมาแต่ไร้เลห์เหลี่ยม ลิงก็เหมือนกับคนที่ฉลาดแกมโกง พูดมากพรีเซ็นต์เก่ง อ้างอิงตำราได้สารพัด แต่ไม่เคยทำงานจริง นายที่ดีไม่ควรปล่อยให้ลิงหลงระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้


ผู้เป็นนายไม่ควรยึดติดความสบาย นั่งขึ้นอืดรอฟังแต่รายงานในห้องประชุม รู้จักยอมเสียสละตน สละเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อค้นหาความจริงเพื่อควบคุมเจ้าลิง เพราะไม่เช่นนั้น องค์กรก็จะทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าลิงสงบได้องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืนไปด้วย

โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ
ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก

อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง

คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย

ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ

ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น

ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า
}แน่นอน~

คนเราเมื่อ ตัวตายก็ต้องลงดิน

ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด

เหตุผลของคน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคน อีกคนหนึ่ง

ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร

หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ

ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น

จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว

อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง
เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย

อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่

จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์

เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน

ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ

ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป


หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ

หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว

ไม่เป็นขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้

มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า
วันหลัง

เมื่อวานก็สายเกินแล้วพรุ่งนี้ ก็สายเกินไป

อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก

เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณ หมดทุกคน

teem blog กระแสแรง ชาวธีมแห่ส่งบทความ ทำเอาblogแทบถล่ม

ได้กระแสการตอบรับและความร่วมมือจากชาวธีมเป็นอย่างดีนะคะ สำหรับการส่งบทความเข้าประกวดชิงรางวัล ในโครงการ "Design by creation" ที่ Teem group จัดขึ้น แค่เริ่มต้นก็ไปได้สวยมากๆสำหรับโครงการดีๆแบบนี้ เอาเป็นว่างานนี้ มิส มอนเจอร์ ในฐานะ blog master หรือผู้ดูแล teem blog ต้องขอขอบพระคุณพี่ๆน้องๆทุกท่านที่ร่วมกันส่งบทความเข้ามาอย่างล้นหลามเลยทีเดียว คาดว่าคณะกรรมการตัดสินของเราต้องหนักใจอย่างแน่นอน และหลังจากนี้ เตรียมตัวลุ้นกันให้ดีว่าเจ้าของบทความท่านใดจะได้เงินรางวัลไปครอง แล้วเจอกันในงานประกาศรางวัล Teem blog private party ที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม นี้ เริ่ม เวลา18.00น. นะคะ วันนี้มิสต้องไปก่อนละ see u there in the party ...bye..

Mexican style

service1
Mexican คือรูปแบบการตกแต่งที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบทวีปอเมริกา ในประเทศไทยเม็กซิโก  ซึ่งมีเอกลักษณะเฉพาะตัว ลักษณะที่โดดเด่นนั้นคือ สีสันที่นำมาใช้ผสมผสานกับวัฒนธรรมคนพื้นเมือง และศิลปะของชนชาติอื่นที่ส่งอิทธิพลมาถึง อย่างเช่นสเปน และยังมีส่วนผสมของศิลปะศาสนาคริสต์ การใช้สีของสไตล์เม็กซิกันนี้จะมีคู่สีจัดจ้านกว่าแบบ Mediterranean คู่สีมีความตัดกันมาก แต่ดูสวยซึ่งแฝงไว้ด้วยความเชื่อของชนเผ่าพื้นเมือง สิ่งของที่ใช้ในการประดับตกแต่งจะเป็นแนว Russtic  ซึ่งเกิดจากจิตวิญญาณในความเชื่อของชนเผ่าพื้นเมือง อย่างเช่นหน้ากากรูปแบบต่างๆ ซึ่งนิยมใช้ประดับติดผนัง และยังมีการประดับจัดวางด้วยตุ๊กตาชนเผ่าพื้นเมืองหรือเทพที่เคารพ เครื่องเรือนจะมีรูปแบบเรียบง่าย ใช้วัสดุ เช่น ไม้ และหวายเป็นตัวยึดถักกัน
แนวทางการตกแต่งแบบ Mexican style ต้องกล้าใช้สีที่แรงๆเพราะลักษณะเด่นของ Mexican อยู่ที่สีสันที่ดูสนุกสนาน ลักษณะเด่นที่สังเกตได้อีกอย่างในการตกแต่งสไตล์นี้ คือ การแกะสลักแบบแฮนเมดลงบนเฟอร์นิเจอร์ และของประดับตกแต่ง และการเขียนสีลงในร่องแกะ หรือเทคนิคการทำสีเก่า ซึ่งบรรยากาศจะบ่งบอกถึงความสนุกของการใช้สี แล้วยังแฝงไว้ถึงความลึกลับอีกด้วย การจัดวางต้นไม้ประดับพวกกระบองเพชรในกระถางเขียนสี พรม หนังสัตว์ และผ้าบุลวดลายพื้นเมือง ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศได้ง่าย

The root of Mexicen style is from Mexico in South America. The distinctive features are colours which integrate with native culture  and art that is influenced by Spanish and Christian art. The Mexican ways of colouring goes for strong-contrast matching colours, yet in a beautiful way and relates to ethnically spiritual belief. Rustic furniture and props also connect to the belief such as several types of masks, ethnic Mexican dolls, gods or goddesses dolls. Simple looking furniture is made by natural materials as wood and rattan woven together.

We may need to be courageous enough to decorate places with extremely vivid colour because the heart of Mexican style is to enjoy playing with colour. Another key feature is the handmade craftwork on furniture or props and painting in grooves and techniques in colouring. This decoration style can lighten the atmosphere of liveliness, yet of mystery as well. The props can vary from cactuses in painted pots, fur carpets to upholstery with ethnic motifs.

Thank you for Photo
svanes www.prodeccenter.com/interior_tip.html?tip_id=6

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

สิ่งที่ควรคำนึงถึง.... ก่อนจะปลูกต้นไม้ใหญ่ข้างบ้าน


บ้านไหนที่มีพื้นที่น้อย แต่อยากปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ให้ร่มเงา และจำเป็นต้องปลูกไว้ข้างบ้าน วันนี้เรามีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนที่จะลงมือปลูกมาบอก.......
1.อย่าเลือกต้นไม้ใหญ่ที่มีรากโต ๆ และเลื้อยไปทั่ว เช่น ต้นจามจุรี ต้นหางนกยูง เพราะรากจะดัน โครงสร้างบ้านจนพังทลายได้

2.ดู ทิศทางลม ว่าเข้าปะทะบ้านโดยตรง และรุนแรงในแนวที่จะลงต้นไม้หรือไม่ เพราะควรจะเผื่อแนวที่ต้นไม้ล้มไว้บ้าง แต่หากไม่อยู่ในแนวลม ก็ควรดัดต้นไม้ไว้บ้างป้องกันไม่ให้เอนเข้าหาตัวบ้าน

3.ถ้ากลัวขโมยใช้ต้นไม้เป็นบันไดเข้าบ้าน ก็อย่าปลูกให้กิ่งไม้ยื่นเข้ามาเกาะตัวบ้าน

.........เพียงเท่านี้ก็ปลูกต้นไม้ใหญ่ได้โดยไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปแล้วล่ะ.........

รูป 10 นวัตกรรมออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม สมาคมนักออกแบบอุตสาหกรรมแห่งสหรัฐอเมริกา (IDSA)



10 นวัตกรรมออกแบบ แปลกใหม่-ไฮเทคแห่งปี"52
ผลตัดสินรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมนานาชาติ หรือรางวัล "IDEA" ประจำปี พ.ศ.2552 ได้ฤกษ์ประกาศรายชื่อผู้ชนะสาขาต่างๆ ออกมาแล้ว

รางวัลนี้สนับสนุนโดยนิตยสารธุรกิจชั้นนำ "บิสสิเนสวีก" และสมาคมนักออกแบบอุตสาหกรรมแห่งสหรัฐอเมริกา (IDSA) มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและมอบรางวัลเพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคล กลุ่มบุคคล รวมถึงองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการออกแบบใหม่ๆ ซึ่งสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประชากรทั่วโลก

สำหรับผู้ชนะที่น่าสนใจและมีความโดดเด่นในสาขาต่างๆ ประจำปี 2552 บางส่วนประกอบด้วยผลงานดังต่อไปนี้

1.คู่มือทำอาหารดิจิตอล (Teaser)


ผู้ออกแบบ : สก๊อต ชิม มหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอ และคาลวิน เฉิน มหาวิทยาลัยเพอร์ดู สหรัฐอเมริกา

ทีเซอร์ (Teaser) เป็นต้นแบบคู่มือปรุงอาหารยุคดิจิตอลที่นอกจากจะบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับสูตรอาหารต่างๆ เอาไว้ในหน่วยความจำแล้วก็ยังมีระบบ "ผลิตรสชาติ" ของเมนูที่ต้องการปรุงออกมาได้ด้วย! ภายในตัวเครื่องติดตั้ง "ตลับเก็บรสชาติ" เอาไว้ 18 ตัวอย่าง

สามารถสั่งให้เครื่องนำมาผสมกัน พร้อมกับจัดพิมพ์ลงบนกระดาษตัวอย่างเพื่อให้ลองชิมดูว่าถูกใจหรือไม่ ถ้าถูกลิ้นก็ลงมือปรุงจริงๆ ได้เลย แต่ถ้าไม่โดนใจก็ประยุกต์สูตรได้ตามสะดวก


2.เครื่องสร้างอักษรเบรล (Haptic Reader)

ผู้ออกแบบ : เดวิด ลี และยูนา คิม มหาวิทยาลัยฮันดองโกลบอล และฮันซุก ลี มหาวิทยาลัยไคเมียง เกาหลีใต้

Haptic Reader ทำหน้าที่เป็นเครื่องสแกนตัวอักษรบนหน้าหนังสือ จากนั้นประมวลผลออกมาเป็นตัวอักษรเบรล ช่วยให้ผู้พิการทางสายตามีโอกาสเข้าถึงคลังความรู้ในโลกหนังสือมากขึ้น วิธีการใช้งาน นำตัวเครื่องวางทับหน้าหนังสือที่ต้องการ เมื่อระบบสแกนเสร็จแล้ว พื้นผิวหน้าจอส่วนบน จะมีปุ่มนูนขึ้นมาแปรสภาพเป็นอักขระเบรล
นอกจากนั้น ยังมีระบบแปลงตัวอักษรที่สแกนเข้ามาเป็น "คำพูด" อีกด้วย

3.โน้ตบุ๊กเจาะกลุ่มผู้หญิง (Shell Laptop Concept)

ผู้ออกแบบ : จอช มารัสกา และแทน ทูลิส สหรัฐอเมริกา

ต้นแบบโน้ตบุ๊ก รุ่น "Shell Laptop" พัฒนาโดยทีมงานของบริษัทไมโครซอฟท์ ยักษ์ใหญ่ธุรกิจโปรแกรมคอมพิวเตอร์เบอร์ 1 ของโลก แนวคิดหลักต้องการทลายกรอบการออกแบบ โน้ตบุ๊กเดิมๆ

มุ่งจับลูกค้ากลุ่ม "ผู้หญิง" ยุคใหม่ อายุระหว่าง 23-28 ปี นำวัสดุที่ดูแล้วมีความนุ่มนวล น่าสัมผัส เช่น ไม้และเซรามิกมาผสานเข้ากับลวดลายเรืองแสง มองแล้วน่าดึงดูดใจให้ใช้งาน


4.คอนแท็กต์เลนส์กันแดด (Contact Shades)

ผู้ออกแบบ : จิน ยองอุน, จุน เกียวลี, ยัง โฮลี สังกัดกลุ่มโคเรีย ดีไซน์ เมมเบอร์ชิพ ประเทศเกาหลีใต้

"แว่นตากันแดด" มีมาตั้งหลายปี ล่าสุด กลุ่มนักออกแบบแดนโสมจึงคิดค้น "คอนแท็กต์เลนส์" ที่มีคุณสมบัติกันแดดและรังสีอัลตราไวโอเลตขึ้นมาบ้าง

คอนแท็กต์เลนส์กันแดดที่ว่านี้มี 4 รุ่นด้วยกัน เหมาะกับสภาพอากาศ 4 ลักษณะ และมุ่งจับลูกค้ากลุ่มที่ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง


5.แผนที่หลากมุมมอง (Panamap)


ผู้ออกแบบ : เอียน ไวต์ บริษัท เออร์บัน แม็ปปิ้ง อิงก์ สหรัฐอเมริกา

แผนที่มาตรฐานทั่วไปทุกวันนี้ถูกระบบบอกพิกัดผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) รวมถึงโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนชนิดมีแผนที่ในตัวแย่งหน้าที่ไปเยอะ จนใกล้กลายเป็นของตกยุค แต่บ.เออร์บัน แม็ปปิ้ง ยังคงศรัทธาในแผนที่ เพียงแต่นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการสร้างแผนที่ไฮเทค รุ่น "Panamap" (พานาแม็ป)

เมื่อกางและขยับเปลี่ยนมุมมองแผนที่แต่ละครั้ง จะมองเห็นข้อมูลอื่นปรากฏขึ้นมาสลับกันไป อาทิ ถนนหนทาง เส้นทางเดินรถระบบขนส่งมวลชน และแนะนำย่านสำคัญๆ ในแต่ละเมือง


6.เลนจักรยานส่วนตัว (Light Lane)

ผู้ออกแบบ : เอวาน แกนต์ จากสมาคมนักออกแบบอุตสาหกรรมแห่งอเมริกา และอเล็กซ์ ที จากบริษัท อัลติจูด อิงก์ สหรัฐอเมริกา
กระแสรณรงค์ให้คนในสังคมเมืองหันมาขี่จักรยานเพื่อช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมคนละไม้คนละมือไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร หนึ่งในสาเหตุหลักเพราะไม่มีการสร้าง "เลนจักรยาน" เอาไว้ให้ประชาชนขี่จักรยานด้วยความปลอดภัย
เมื่อหวังพึ่งทางการไม่ค่อยได้ คู่หูเอวาน กับอเล็กซ์ จึงออกแบบ "ไฟส่องเลนจักรยาน" ขนาดพกพาสำหรับติดท้ายจักรยาน คอยทำหน้าที่ยิงลำแสงเลเซอร์ออกไปเป็นรูป "เลนจักรยาน" เพื่อขอทางปั่นจักรยานและเตือนให้รถยนต์ที่ขับตามมาข้างหลังได้มองเห็นชัดๆ โดยเฉพาะยามค่ำคืน


7.โคมไฟรีไซเคิล (The Energy Seed)

ผู้ออกแบบ : ปาร์ก ซังวู มหาวิทยาลัยกุ๊กมิน และคิม ซุนฮี มหาวิทยาลัยชุนอา เกาหลีใต้

เป้าหมายการประดิษฐ์โคมไฟรูปร่างเลียนแบบ "ดอกไม้" แสนสวยงามชิ้นนี้ เพื่อกระตุ้นให้มนุษย์ตระหนักถึงพิษภัยของการทิ้ง "ขยะพิษอิเล็กทรอนิกส์" ไม่เป็นที่เป็นทาง เช่น ถ่านและแบตเตอรี่ ซึ่งนับวันยิ่งส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง การใช้งานโคมไฟ "Energy Seed" ต้องทิ้งถ่านหรือแบตเตอรี่เก่าลงไปในช่องที่จัดเตรียมไว้ให้ ขั้นต่อไประบบจะ "รีด" พลังงานที่ยังพอตกค้างอยู่ในแบตเตอรี่ออกมาใช้จนหมดเกลี้ยง

เมื่อทิ้งแบตเตอรี่เก่าๆ ลงไปมากเท่าไหร่ หลอดไฟแอลอีดีในดอกไม้จะสว่างจ้ามากขึ้นเท่านั้น เหมือนเราค่อยๆ ปลูกประคบประหงมเมล็ดพันธุ์พืชจนเติบใหญ่

8."เมาส์"สุดเดิร์น (Arc Notebook Mouse)



ผู้ออกแบบ : นักออกแบบผลิตภัณฑ์ไอทีประจำบริษัทวัน แอนด์ โค, ไมโครซอฟท์ และแคดเบส โซลูชั่น สหรัฐอเมริกา

ใครเห็นรูปโฉมเมาส์คอมพิวเตอร์ "Arc Notebook Mouse" รุ่นนี้ของบริษัทไมโครซอฟท์คงต้องยอมรับว่าเดิร์นจริงๆ ได้รับการออกแบบให้ใช้กับโน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ รูปทรงโค้งมน หยิบจับใช้งานคล่องตัว
มีขนาดเล็กกว่าเมาส์ทั่วไปของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะราวกึ่งหนึ่ง แต่สามารถกางออกมาให้กลายเป็นเมาส์ขนาดใหญ่ได้ด้วย


9.ชุดตรวจเชื้อเอดส์ที่บ้าน (Project Masiluleke Home HIV Test Kit)

ผู้ออกแบบ : บริษัท ฟร็อกดีไซน์ สหรัฐอเมริกา

ชุดตรวจผลเชื้อเอชไอวี/เอดส์ในภาพนี้ แจกจ่ายฟรีอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในโครงการลดการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ในพื้นที่ชนบทห่างไกลของแอฟริกาใต้

เมื่อรับชุดดังกล่าวไปแล้ว นำไปตรวจหาเชื้อเอชไอวีได้ด้วยตนเอง โดยใช้ "น้ำลาย" เป็นตัวตรวจหาเชื้อ ภายในกล่องเขียนคำอธิบายวิธีใช้งาน ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่นของคนแอฟริกัน

10.เครื่องบินสะเทินน้ำสะเทินบก (ICON A5)

ผู้ออกแบบ : นักวิจัยสังกัดบริษัท ไอคอน แอร์คราฟต์, กลุ่มนิสสัน ดีไซน์ อเมริกา, บริษัท ทรอย ลี ดีไซน์ และวิทยาลัยศิลปะการออกแบบ สหรัฐอเมริกา

เครื่องบินส่วนบุคคลหน้าตาล้ำยุคและดุดันเอาเรื่อง รุ่น "ICON A5" ใช้เล่นได้ทั้งบนอากาศและเหนือผิวน้ำ ปีกพับเก็บได้ ช่วยให้การเคลื่อนย้ายตัวเครื่องไปยังสถานที่ต่างๆ ทำได้โดยง่าย
พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนที่รักในกีฬาขับเครื่องบินเล็ก ซึ่งมีใบอนุญาตการบินถูกต้องตามกฎหมาย

การออกแบบที่ผิดพลาด


ภาพประกอบการออกแบบที่ผิดพลาด

Food Follow Function ทฤษฎีการออกแบบ ปะทะ ศาสตร์การทำอาหาร อะไรจะเกิดขึ้น

ในปัจจุบันการออกแบบได้เข้ามามีส่วนร่วมในสิ่งต่างๆ ของชีวิตประจำวันมากขึ้น มีนักออกแบบหลายท่านที่เลือกใช้อาหารเป็นวัสดุใหม่ในการสร้างสรรค์งานออกแบบ ทฤษฎี Form Follow Function ของการออกแบบนั้น จึงขยับขยายไปสู่อุตสาหกรรมอาหารอีกด้วย





Form Follow Function นั้นเป็นทฤษฎีหรือแนวความคิดเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะของงานออกแบบที่สอดคล้องกับประโยชน์ใช้สอย โดยปราศจากการสร้างรูปร่างลักษณะเพื่อการประดับประดาเท่านั้น จนได้เป็นลักษณะที่เรียบง่าย บริสุทธิ์สวยงาม อาหารบางชนิดที่ถูกออกแบบขึ้นในปัจจุบันนั้น จึงไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่รสชาติ หน้าตาที่สวยงามน่ารับประทานเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงหน้าตาที่สอดคล้องกับลักษณะของการรับประทาน รสชาติ และองค์ประกอบอื่นๆ ของอาหาร


ตัวอย่างระดับ Classic ของงานออกแบบอาหารที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ใช้สอย คงหนีไม่พ้นงานของGioirgio Giugiaro นักออกแบบชาวอิตาเลียนที่สร้างชื่อกับงานออกแบบรถยนต์ “the Beetle” หรือที่บ้านเรารู้จักกันในนาม“รถเต่า”ให้กับ Volkswagen ในปี 1983 Giugiaro ได้ออกแบบเส้นพาสต้าอาหารประจำดินแดนบ้านเกิดของเค้าเสียใหม่ โดยเส้นพาสต้านี้มีรูปทรงที่สามารถดูดซับน้ำซอสได้มากที่สุด






ต่อมาในปี 1987 นักออกแบบชื่อดังชาวฝรั่งเศส Philippe Starck ก็ได้รับการทาบทามให้ออกแบบเส้นพาสต้าเช่นเดียวกันให้กับแบรนด์ Panzani ของประเทศฝรั่งเศส Starck คิดว่า พาสต้านั้นเป็นอาหารที่ทุกคนชื่นชอบไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่บางครั้งการรับประทานพาสต้าก็ทำให้อ้วนได้ง่ายดายเช่นเดียวกัน Starck จึงมีแนวความคิดในการออกแบบรูปทรงของเส้นพาสต้าให้มีปริมาณเส้นพาสต้าเพียงแค่ 10% ในขณะที่ส่วนที่เหลือของปริมาตรคืออากาศ ในขณะเดียวกันคนฝรั่งเศสและคนอเมริกันมักจะต้มเส้นพาสต้านานเกินไป เขาจึงออกแบบให้เส้นพาสต้ามีปีกหนาสองชั้นที่สองข้างของเส้น เพื่อช่วยให้ 80% ของเส้นพาสต้าทั้งหมดยังคงถูกต้มในปริมาณที่พอดี “Al Dante” ถึงแม้จะต้มนานไปก็ตาม
และอีกหลายๆ ตัวอย่างของงานออกแบบ อย่างเช่น การออกแบบช็อกโกแลตเป็นเปลือกถั่ว, การสร้างลวดลายบนช็อกโกแลต ฯลฯ....


































































เกร็ดความรู้เกี่ยวกับระบบปรับอากาศ ( น่าจะเกี่ยวมั้ง )

กร็ดความรู้ระบบปรับอากาศ

เกร็ดความรู้ระบบปรับอากาศ

หน้าร้อนทีไร ทำไมแอร์ไม่เย็น

เมื่ออากาศร้อน เครื่องปรับอากาศจะมีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนลดลง ภาระการทำความเย็นในหน้าร้อนเพิ่มขึ้น ในหน้าร้อน และวันที่อากาศร้อนสูงเกิน 40 องศา และแอร์เย็นน้อยลงบ้าง(อยู่ที 26 องศา)เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าร้อนขนาดนี้แล้ว แอร์ยังเย็นเจี๊ยบ(23 องศา)แสดงว่า ในวันที่อุณหภูมิปกติคือ 30-35 องศา แอร์อาจจะใหญ่เกินไปด้วยซ้ำ และอาจจะกินไฟมากเกินไป

จะทำให้แอร์ในหน้าร้อน เย็นขึ้นได้อย่างไร

เคยได้ยินโครงการ?ล้างแอร์ช่วยชาติ?ไหม การล้างแอร์ช่วยให้ การไหลเวียนของอากาศดีขึ้น แผงคอยล์สะอาด ทำให้การถ่ายเทความร้อนดี จะช่วยให้ได้ความเย็นมากขึ้น อาจจะถึง 10-15% เชียวนะ การล้างแอร์ยังช่วยลดเชื้อโรคที่หมักหมม เป็นผลดีกับสุขภาพด้วย แผงคอยล์ร้อนที่เครื่องระบายความร้อน มักจะมีฝุ่นหรือผงดินจับ โดยเฉพาะเมื่อตั้งกับพื้นดิน จึงควรทำความสะอาดด้วยการฉีดน้ำ รดน้ำต้นไม้แล้วฉีดน้ำล้างแผงคอยล์ด้วยนะ แต่ระวังอย่าไปฉีดส่วนที่เป็นกล่องไฟฟ้า ฉีดล้างเฉพาะที่แผงคอยล์ก็พอ หากยังรู้สึกว่าแอร์เย็นไม่พอ ใช้พัดลมเสริม ก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด ประหยัดไฟดี ไม่จำเป็นต้องติดแอร์ใหญ่เข้าไว้ก่อน เพราะเจอค่าไฟแพงแล้วจะรู้สึก

อุณหภูมิของห้องปรับอากาศที่เหมาะสม ควรจะเป็นเท่าไร

อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับห้องปรับอากาศ โดยทั่วไปควรจะเป็นประมาณ 25 องศา หรือสำหรับห้องนอนเมื่อใช้งานในตอนกลางคืน ควรจะเป็นประมาณ 26 องศา เพราะในขณะที่นอน การทำงานของร่างกายจะลดลง และไม่ควรใช้ผ้าห่มที่เป็นผ้านวมหนาๆ เพราะจะทำให้ต้องปรับอากาศที่อุณหภูมิต่ำเกินจำเป็น สุดท้ายก็เปลืองไฟอีกนั้นแหละ

แอร์ฝังดีไหม

สำหรับบ้านเศรษฐี สถาปนิกมักจะออกแบบให้แอร์ฝัง เพื่อให้สวยงาม โดยหารู้ไม่ว่า เป็นการสร้างปัญหาให้กับการปรับอากาศ และเจ้าของบ้านในอนาคต แอร์ฝัง ติดตั้งยาก ล้างยาก ฝ้าเพดานที่ฝังรั่วทำให้แอร์รั่ว ฝ้าเพดานร้อนทำให้แอร์ไม่เย็น สกปรกทำให้เกิดเชื้อโรค และทำให้เจ้าของบ้านเป็นโรคภูมิแพ้ แอร์สมัยนี้ ออกแบบมาสวยตั้งหลายแบบ ติดแอร์ตามที่เขาผลิตมา ดีที่สุด

พัดลมระบายอากาศมีไว้ทำไม

พัดลมระบายอากาศ ส่วนใหญ่ผลิตมาสำหรับใช้กับห้องน้ำ ห้องครัว และติดตั้งกับผนังหรือเพดาน ในกรณีที่มีความจำเป็นที่ต้องมีการระบายอากาศเสีย หรือกลิ่นเหม็น ห้องน้ำที่ติดกับผนังนอกอาคาร หากเปิดหน้าต่างได้ก็ไม่ต้องใช้พัดลม จะได้ไม่เปลืองไฟ และพัดลมพวกนี้ ถ้าใช้งานต่อเนื่องตลอดเวลา ส่วนใหญ่ไม่ถึง 5 ปีก็เสียแล้วห้องปรับอากาศทั่วไป ไม่จำเป็นต้องมีพัดลมระบายอากาศ เพราะจะทำให้ห้องชื้น มีฝุ่นมาก และเปลืองแอร์

ประตูห้องน้ำ ควรเป็นบานเกล็ดหรือเปล่า

ถ้ามีการถามว่า ประตูห้องน้ำทำไมต้องเป็นบานเกล็ด มักจะพบว่าไม่มีใครตอบเหตุผลที่ชัดเจนได้ เป็นการทำตามความเคยชินซะมากกว่า สมัยก่อน ห้องน้ำอยู่ต่างหากจากบ้าน การทำช่องระบายอากาศจึงมีเหตุผล แต่ในปัจจุบันห้องน้ำมักจะอยู่ในบ้าน พอประตูมีเกล็ดระบายอากาศ กลิ่นและความชื้นจากห้องน้ำจึงระบายเข้ามาในบ้าน แถมความเป็นส่วนตัวยังหายไปด้วย ห้องน้ำควรจัดให้มีการระบายอากาศออกนอกบ้าน ถ้าทำได้อย่างนี้ ประตูห้องน้ำ ควรจะเป็นบานทึบครับ

แอร์เบอร์ 5 ดีอย่างไร

แอร์เบอร์ 5 คือแอร์ที่ผ่านการรับรองแล้วว่ากินไฟน้อย หรือมีค่า EER 10.6 บีทียู/ชั่วโมง/วัตต์ ทำให้ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบและเลือกซื้อเครื่องแอร์ที่กินไฟน้อย ในปัจจุบัน ผู้ผลิตส่วนใหญ่ก็มีแอร์เบอร์ 5 ให้เลือกซื้อหลายรุ่น บางรายไปถึงแอร์เบอร์ 6 ก็มี ในอนาคต เครื่องแอร์ที่ขายในท้องตลาดจะต้องเป็นแอร์เบอร์ 4 หรือมีค่า EER 9.6 บีทียู/ชั่วโมง/วัตต์ เป็นอย่างน้อย

ห้องนอนขนาด 20 ตารางเมตร ใช้แอร์ขนาดไหนดี

โดยทั่วไป ควรจะใช้ขนาดไม่เกิน 1 ตันความเย็นหรือ 12000 บีทียู/ชั่วโมง การที่ใช้เครื่องที่โตเกินไป นอกจากจะกินไฟแล้ว ความเย็นยังไม่สม่ำเสมอด้วย เพราะเครื่องจะตัดต่อบ่อย และความชื้นในห้องจะสูง การเลือกเครื่องแอร์สำหรับห้องนอน ควรให้ความสำคัญกับการใช้งานในตอนกลางคืนมากกว่ากลางวัน เพราะส่วนใหญ่เราใช้งานตอนกลางคืน เพื่อให้เครื่องมีขนาดพอดี ทำให้อุณหภูมิและความชื้นในขณะนอนพอดี เราก็หลับสบาย หากห้องนอนขนาดนี้ ใช้แอร์ 1 ตันความเย็นแล้ว ไม่เย็นเลย สงสัยต้องไปตรวจสอบแล้วหละว่า ว่าควรจะป้องกันความร้อนและทำฉนวนป้องกันความร้อนอย่างไร

แอร์ที่มีเครื่องฟอกอากาศในตัวดีหรือเปล่า

การแข่งขันในตลาดเครื่องปรับอากาศนั้นสูงมาก ผู้ผลิตยี่ห้อต่างๆจึงต้องงัดเอากลยุทธใหม่ๆ ออกมานำเสนอให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยนี้ ประชาชนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศจึงจับจุดเครื่องฟอกอากาศนี้มาเป็นจุดขาย เพราะไปเห็นสถิติว่าเครื่องฟอกอากาศขายดี เลยเอาเครื่องฟอกอากาศมาบวกกับแอร์เสียเลย เรื่องนี้ ในฐานะผู้ซื้ออย่าไปซีเรียสมาก คิดว่าอีกซักพัก คงจะซาลงไปเอง เหมือนเรื่องเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ที่ใช้ไปสักพัก ก็ใช้ไม่ได้ และไม่เห็นข้อแตกต่างทางด้านสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างไร

อลูมิเนียมฟอยล์ช่วยป้องกันความร้อนได้จริงหรือไม่

การติดตั้งอลูมิเนียมฟอยล์ใต้กะเบื้องซีเพค ช่วยลดความร้อนได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากการสะท้อนความร้อน และการที่เกิดช่อว่างอากาศระหว่างแผ่นฟอยล์และแผ่นกระเบื้อง โดยยังได้อานิสงในการลดปัญหาหลังคารั่ว เนื่องจากแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์กันน้ำ อย่างไรก็ตาม การป้องกันความร้อนจากหลังคาที่ดีที่สุดคือการใช้ฉนวนใยแก้วที่หุ้มด้วยอลูมิเนียมฟอยล์หนาสัก 3 นิ้วติดตั้งที่ฝ้าเพดาน อย่างนี้ ชัวร์กว่าเยอะครับ

แอร์นอกกับแอร์ที่ผลิตในประเทศ อย่างไหนดีกว่ากัน

โปรดทราบว่า เครื่องแอร์ที่ขายกันอยู่ในท้องตลาดไม่ว่าจะมียี่ห้อเป็นญี่ปุ่น หรืออเมริกัน ล้วนแล้วแต่ผลิตในประเทศทั้งสิ้น ยี่ห้อเป็นญี่ปุ่นบางยี่ห้อ ไม่มีในญี่ปุ่นครับ มีแต่ในประเทศไทย ยี่ห้ออเมริกันบางยี่ห้อ ในอมริกาก็ไม่มีแล้ว มีแต่ในประเทศไทยครับ ในปัจจุบัน ประเทศไทยส่งออกเครื่องปรับอากาศหลายหมื่นล้านบาทต่อปีแอร์ไทยดี และมีมาตรฐานสูง สนับสนุนแอร์ไทยกันเถอะครับ

คอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่ดีอย่างไร

แอร์ทุกเครื่องมีคอมเพรสเซอร์ในตัว สมัยก่อน คอมเพรสเซอร์มีแต่ชนิดลูกสูบ แต่ในปัจจุบัน มีชนิดโรตารี่ และสครอล โดยทั่วไป คอมเพรสเซอร์ชนิดโรตารี่จะเดินเงียบและกินไฟน้อยกว่า จึงได้รับความนิยมมากขึ้น แต่จะมีขนาดจำกัด ส่วนสครอลเป็นคอมเพรสเซอร์รุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม และมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นคอมเพรสเซอร์รุ่นใหม่ๆยังมักจะออกแบบให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ปรับรอบหรืออินเวอร์เตอร์ด้วย

แอร์ที่ใช้อินเวอร์เตอร์ดีอย่างไร

สมัยก่อน การทำงานของคอมเพรสเซอร์ ควบคุมด้วยเทอร์โมสตัทที่จะสั่งให้คอมเพรสเซอร์ตัดหรือต่อ การทำงานในลักษณะนี้ ทำให้ช่วงการควบคุมอุณหภูมิอยู่ในช่วงประมาณ 2 องศา และการตัดหรือต่อของคอมเพรสเซอร์เกิดการกระชากของไฟ ดังนั้น จึงเกิดเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่าอินเวอร์เตอร์ ที่ควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์โดยการปรับรอบของคอมเพรสเซอร์ ทำให้การควบคุมอุณหภูมิสม่ำเสมอขึ้น และไม่เกิดไฟกระชาก ทำให้ประหยัดไฟ สกว ได้ส่งเสริมให้มีการพัฒนาสร้างระบบอินเวอร์เตอร์ในประเทศไทยด้วย เพื่อให้เราสามารถพึ่งตนเองได้

เครื่องฟอกอากาศดีหรือไม่

เครื่องฟอกอากาศ มีประโยชน์ในการลดฝุ่นละอองอันเป็นสาเหตุของการสะสมเชื้อโรค กลิ่น อันเป็นสาเหตุของโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ และโรคภูมิแพ้ เนื่องจากมลภาวะในอากาศสูงขึ้น โดยเฉพาะในเมือง เครื่องฟอกอากาศจึงมีความจำเป็นมากขึ้นสำหรับที่อยู่อาศัยในเมืองที่มีสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ อย่างไรก็ตาม เครื่องฟอกอากาศมีข้อจำกัดที่ขนาดของพื้นที่ใช้งาน และจะต้องหมั่นเปลี่ยนแผงกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ

ควรทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศบ่อยแค่ไหน

การทำความสะอาดแผงกรองอากาศ ควรทำเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และควรล้างแผงคอยล์เป็นประจำอย่างน้อยทุก 6 เดือน จะทำให้แอร์เย็น กินไฟน้อย และไม่เป็นที่หมักหมมของเชื้อโรค

แอร์พัดลมน้ำดีหรือไม่

บางครั้ง เวลาเราไปเดินชมสินค้าตามงานโฮม โชว์ จะเห็นคนขายพัดลมน้ำ เวลาเดินผ่านก็รู้สึกเย็นดี ราคาก็ถูก น่าใช้ พัดลมน้ำพวกนี้ไม่น่าใช้ครับ ที่เรารู้สึกเย็นในงานโฮม โชว์ เพราะในงานติดแอร์อยู่แล้ว พัดลมน้ำ เมื่อนำมาใช้ในบ้าน จะทำให้บ้านชื้น ดีไม่ดี เชื้อราจะตามมาอีกด้วย

ระวังอย่าให้แอร์เป่าโดนตัวโดยตรง

ลมที่เป่าออกจากหน้ากากแอร์ โดยปกติจะมีอุณหภูมิ 12-13 องศา ซึ่งเป็นลมเย็นจัด จึงไม่ควรให้เป่าโดนตัวโดยตรง จะไม่สบายเอาง่ายๆ การออกแบบระบบแอร์ที่ดี หน้ากากแอร์จะเป่าลมเย็นให้ผสมกับอากาศในห้องก่อนจึงจะกระทบตัวคน

ระวังละอองน้ำจาก Cooling Tower

ละอองน้ำจาก Cooling Tower ที่ใช้ในระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ จะมีแบททีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า?ลีเจียแนร่า?ซึ่งทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจได้ หากถึงขั้นรุนแรง ก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงควรระมัดระวัง และไม่ควรเข้าใกล้ หรือหายใจละอองน้ำนี้เข้าไป วิศวกรจะต้องระวังในการติดตั้ง เพื่อไม่ให้ละอองน้ำเข้าสู่อาคารได้

ที่มา ศูนย์เทคโนโลยีความปลอดภัยสำหรับอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

notebook ดีไซน์ล้ำ นำสมัย จริงๆ

Notebook ดีไซน์นั้นสวยล้ำ นำสมัยจริงๆ เลย

อันนี้เหมากับสาวๆนะคะ ขอบอกว่าสีหวานมาก เอาไปใช้ที่ไหนไม่อายใครแมมีแต่คนมอง..เริ่ดชะ

Notebook ดีไซน์นั้นสวยล้ำ นำสมัยจริงๆ เลย

อันนี้ ไอเดียคล้าย สาส์นสมัยโบราณยังไงอย่างงั้นเลย เก๋ไปอีกแบบนะคะ

Notebook ดีไซน์นั้นสวยล้ำ นำสมัยจริงๆ เลย

ส่วนอันนี้อย่า ถ้าวางไว้ ใครเห็นเป็นต้องรีบเข้าชั่งน้ำหนักกันแน่เชียว

Notebook ดีไซน์นั้นสวยล้ำ นำสมัยจริงๆ เลย

ลายนี้ เหมาะกับ tiger year นะคะ

Notebook ดีไซน์นั้นสวยล้ำ นำสมัยจริงๆ เลย

ใสๆ ราวกับคริสตัล ชนะเลิศค่ะ

Notebook ดีไซน์นั้นสวยล้ำ นำสมัยจริงๆ เลย

แบบ สุดท้าย สีสันสดใส ฟังค์ชั่นครบครัน แถมดูทนทาน ทันสมัยด้วยค่ะ

ทั้งหมดที่เห็นนี้ ยังไม่มีคนอบครองเป็นของตัวเองหรอกนะคะ แต่เห็นแล้วอยากได้ใจจะขาด เอาเป็นว่าใครตังค์เหลือ รสนิยมแรง ก็ไปซื้อหามาเป็นเจ้าของกันได้นะ ไปละ บาย

รู้จักแผ่นดินไหว(มหันตภัยเงียบ)

แผ่นดินไหวคืออะไร

เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิต และทรัพย์สินของมนุษย์ได้เป็นบริเวณกว้าง เชื่อกันว่าทุกประเทศได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ปัจจุบันพบว่ามีความพยายามอย่างมากในหลายประเทศ ซึ่งได้รับอันตรายจากแผ่นดินไหว ศึกษา และทำความเข้าใจถึงกลไกของการเกิดแผ่นดินไหว เพื่อการพยากรณ์แผ่นดินไหว และทำนายเหตุการณ์ว่า จะเกิดขึ้นเมื่อใด? ที่ไหน? ขนาดเท่าใด? แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น ขณะนี้จึงยังไม่มีผู้ใดสามารถ พยากรณ์แผ่นดินไหวได้อย่างถูกต้อง โดยทั่วไปสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเผชิญภัยแผ่นดินไหว คือการเตรียมพร้อมที่ดี แต่ละประเทศควรมีมาตรการในการป้องกัน และบรรเทาภัยแผ่นดินไหวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับธรรมชาติของแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว รอยเลื่อนต่าง ๆ ให้ความรู้ และข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหวต่อประชาชน ให้มีการแบ่งเขตแผ่นดินไหวตามความเหมาะสมของความเสี่ยงภัย ออกกฎหมายให้อาคารสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ สามารถรับแรงแผ่นดินไหวตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่เสี่ยงภัย มีการวางแผนการจัดการที่ดี หากเกิดความเสียหายร้ายแรงหลังการเกิดแผ่นดินไหว เป็นต้น ในกรณีของประเทศไทย แม้ว่าตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิประเทศ จะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวต่ำ แต่เพื่อความไม่ประมาท กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมมาตรการข้างต้นโดยมีภารกิจในการตรวจวัดแผ่นดินไหวตลอด 24 ชั่วโมง แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศเป็นประจำ ตลอดจนวางแผนจัดตั้งโครงการลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสาธารณชนได้

แผ่นดินไหว เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ เกิดจากการเคลื่อนตัวโดยฉับพลันของเปลือกโลก ส่วนใหญ่ แผ่นดินไหวมักเกิดตรงบริเวณขอบ ของแผ่นเปลือกโลกเป็นแนวแผ่นดินไหวของโลก การเคลื่อนตัวดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากชั้นหินหลอมละลาย ที่อยู่ภายใต้เปลือกโลก ได้รับพลังงานความร้อนจากแกนโลก และลอยตัวผลักดันให้เปลือกโลกตอนบนตลอดเวลา ทำให้เปลือกโลกแต่ละชิ้นมีการเคลื่อนที่ในทิศทางต่าง ๆ กันพร้อมกับสะสมพลังงานไว้ภายใน บริเวณขอบของชิ้นเปลือกโลกจึงเป็นส่วนที่ชนกันเสียดสีกัน หรือแยกจากกัน หากบริเวณขอบของชิ้นเปลือกโลกใด ๆ ไม่ผ่านหรืออยู่ใกล้กับประเทศใดประเทศนั้น ก็จะมีความเสี่ยงต่อภัยแผ่นดินไหวสูง เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น นอกจากนั้นพลังที่สะสมในเปลือกโลก ถูกส่งผ่านไปยังเปลือกโลกพื้นของทวีป ตรงบริเวณรอยร้าวของหินใต้พื้นโลกหรือที่เรียกว่า "รอยเลื่อน" เมื่อระนาบ รอยร้าวที่ประกบกันอยู่ได้รับแรงอัดมาก ๆ ก็จะทำ ให้รอยเลื่อนมีการเคลื่อนตัวอย่างฉับพลันเกิดเป็น แผ่นดินไหวเช่นเดียวกัน

วัน เดือน ปี

บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว

3 มีนาคม 2528

ประเทศชิลี ขนาด 7.8 ริคเตอร์ คนตาย 146 คน

19-21 กันยายน 2528

ประเทศแม็กซิโก ขนาด 8.1 ริคเตอร์ คนตาย 4,000 คน

5-6 มีนาคม 2530

ประเทศเอกวาเดอร์ ขนาด 7.3 ริคเตอร์ คนตาย 4,000 คน

20 สิงหาคม 2531

พรมแดนอินเดีย-เนปาล ขนาด 6.4 ริคเตอร์ คนตาย 721 คน
บาดเจ็บ 6,553 คน

6 พฤศจิกายน 2531

พรมแดนจีน-พม่า ขนาด 7.3 ริคเตอร์ คนตาย 1,000 คน ไร้ที่อยู่ 27,000 คน

7 ธันวาคม 2531

พรมแดนตุรกี-รัสเซีย ขนาด 6.2 ริคเตอร์ คนตาย 25,000 คน บาดเจ็บ 19,000 คน
ไร้ที่อยู่ 500,000 คน

22 มกราคม 2532

ประเทศรัสเซีย ขนาด 5.3 ริคเตอร์ คนตาย 274 คน

1 สิงหาคม 2532

ที่ไอเรียน ขนาด 6.0 ริคเตอร์ คนตาย 90 คน

17 ตุลาคม 2532

อ่าวซานฟรานซิสโก ขนาด 6.9 ริคเตอร์ คนตาย 62 คน

30 พฤษภาคม 2533

ประเทศเปรู ขนาด 5.5 ริคเตอร์ คนตาย 135 คน

20 มิถุนายน 2533

ภาคตะวันตกของประเทศอิหร่าน ขนาด 6.3 ริคเตอร์
คนตาย 40,000 -50,000 คน บาดเจ็บมากกว่า 60,000 คน

16 กรกฎาคม 2533

ประเทศฟิลิปปินส์ ขนาด 7.7 ริคเตอร์ คนตาย 1,000 คน

31 มกราคม 2534

พรมแดนปากีสถาน-อัฟกานีสถาน ขนาด 6.8 ริคเตอร์ คนตาย 300 คน

5 เมษายน 2534

ตอนเหนือประเทศเปรู ขนาด 6.5 ริคเตอร์ คนตาย 60 คน

19 ตุลาคม 2534

ตอนเหนือของประเทศอินเดีย ขนาด 6.5 ริคเตอร์ คนตาย 2,000 คน
บาดเจ็บ 1,800 คน

13 มีนาคม 2535

ประเทศตุรกี ขนาด 6.2 ริคเตอร์ คนตาย 479 คน บาดเจ็บ 2,000 คน

12 ตุลาคม 2535

ประเทศอียิปต์ ขนาด 6.6 ริคเตอร์ คนตาย 541 คน บาดเจ็บ 6,500 คน

12 ธันวาคม 2535

ประเทศอินโดนีเซีย ขนาด 6.5 ริคเตอร์ คนตาย 2,500 คน บาดเจ็บ 500 คน

12 กรกฎาคม 2536

ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 6.6 ริคเตอร์ คนตาย 365 คน

29 กันยายน 2536

ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 6.6 ริคเตอร์ คนตาย 9,758 คน บาดเจ็บ 30,000 คน

6 มิถุนายน 2537

ประเทศโคลัมเบีย ขนาด 6.4 ริคเตอร์ คนตาย 295 คน

17 มกราคม 2538

ตอนใต้ของเกาะฮอนชู เมืองโกเบ เกียวโต โอซากา ประเทศ ญี่ปุ่น ขนาด 7.2 ริคเตอร์ คนตาย 5,000 คน บาดเจ็บ 26,000 คน

17 สิงหาคม 2542

ประเทศตุรกี ขนาด 7.8 ริคเตอร์ คนตาย 17,118 คน บาดเจ็บ 50,000 คน
ไร้ที่อยู่อาศัย 600,000 คน

21 กันยายน 2542

เกาะไต้หวัน ขนาด 7.6 ริคเตอร์ คนตาย 2,400 คน บาดเจ็บ 8,000 คน
ไร้ที่อยู่อาศัย 600,000 คน

แผ่นดินไหวรู้สึกได้ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2442-2542


เพิ่มเติมข้อมูลแผ่นดินไหวรู้สึกได้ในประเทศไทย(update ถึง 16 ม.ค. 2545)

13 ก.ย.43 บริเวณ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ขนาด 3.0 ริคเตอร์ รู้สึกได้ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

4 ม.ค.44 จ. เชียงตุง ประเทศพม่า ขนาด 5.0 ริคเตอร์ ขนาด 5.0 ริคเตอร์ รู้สึกได้ที่ อ.เมือง จ.เชียงราย

22 ก.พ.44 บริเวณ เขื่อนเขาแหลม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีขนาด 4.3 ริคเตอร์ รู้สึกได้ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

2 ก.ค.44 บริเวณพรมแดน ไทย-พม่า ใกล้ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ขนาด 4.6 ริคเตอร์ รู้สึกได้ที่ จ.เชียงใหม่

11 พ.ย.44 บริเวณ อ.พาน จ.เชียงรายขนาด 3.7 ริคเตอร์ รู้สึกได้ที่ อ.พาน จ.เชียงราย


เพิ่มเติมข้อมูลแผ่นดินไหวโลกที่สำคัญ(update ถึง ธันวาคม 2544)

วัน เดือน ปี

บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว

12 พฤศจิกายน 2542

ประเทศตุรกี ขนาด 6.3 ริคเตอร์ คนตาย 834 คน บาดเจ็บ 5,000 คน

4 มิถุนายน 2543

ประเทศอินโดนีเซีย ขนาด 6.8 ริคเตอร์ คนตาย 103 คน บาดเจ็บ 2,174 คน

6 ตุลาคม 2543

ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 5.9 ริคเตอร์ บาดเจ็บ 130 คน บ้านเรือน เสียหาย 2,334 หลัง

26 พฤศจิกายน 2543

บริเวณ คอเคซัส ประเทศรัสเซีย ขนาด 5.8 ริคเตอร์ ตาย 32 คน บาดเจ็บ 430 คน

14 มกราคม 2544

ประเทศเอลซัลวาดอร์ ขนาด 6.4 ริคเตอร์ ตาย 844 บาดเจ็บ 4,723 คน

26 มกราคม 2544

ประเทศอินเดีย ขนาด 6.4 ริคเตอร์ ตาย 20,085 คน บาดเจ็บ 166,836 คน สิ่งก่อสร้างพัง 339,000 หลัง

13 กุมภาพันธ์ 2544

ประเทศเอลซัลวาดอร์ ขนาด 5.5 ริคเตอร์ ตาย 315 คน บาดเจ็บ 3,399 คน

24 มิถุนายน 2544

ประเทศเปรู ขนาด 6.7 ริคเตอร์ ตาย 75 คน เสียชีวิตจากคลื่นซูนามิ 26 คน บาดเจ็บ 2,687 คน บ้านเรือนเสียหาย กว่า 50,000 หลัง

14 พฤศจิกายน 2544

ประเทศจีน ขนาด 7.8 ริคเตอร์ บ้านเรือนเสียหายบางส่วน

แผ่นดินไหวครั้งล่าสุด

แผ่นดินไหวในเฮติ เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรง 7.0 ตามมาตราริกเตอร์ โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศไปราว 25 กิโลเมตร (หรือ 16 ไมล์) โดยแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16:53:09 ตามเวลาท้องถิ่น [1] ของวันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553 หรือตรงกับเวลา 04.53 นาฬิกา ในเช้าวันพุธที่ 13 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย[2] แผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่ความลึก 13 กิโลเมตร (8.1 ไมล์)[3] องค์กรสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (The United States Geological Survey) ได้ตรวจสอบบันทึกและพบอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีก 14 ครั้ง ซึ่งมีความแรงอยู่ที่ประมาณ 5 - 8 ริกเตอร์ หน่วยงานกาชาดสากลได้กล่าวว่ามีคนกว่า 3 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ และมีคนเสียชีวิตกว่า 500,000 คน ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ซึ่งมีสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ถล่มเป็นซากปรักหักพังนับไม่ถ้วน ซึ่งรวมถึงทำเนียบประธานาธิบดีที่พังถล่มลงมาด้วย

ความเสียหาย

แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เช่น อาคารบ้านเรือนพังพินาศจำนวนมาก[4] รวมทั้งทำเนียบประธานาธิบดี, อาคารรัฐสภา, กระทรวงการคลัง, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ, อาคารสถานทูต, โรงเรียน, โรงแรมและโรงพยาบาล ที่พังถล่มลงมาทับผู้คน รวมถึงระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เสียหายอย่างหนัก โดยนายปัน กีมุน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า "แผ่นดินไหวที่เฮติถือเป็นหายนะครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่องค์กรนานาชาติเคยประสบมา"[5]

[แก้] จำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต

200,000 คน