วันจันทร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2553

บ้านดิน ริมลำน้ำแควน้อย ทางเลือกใหม่ของคนรักธรรมชาติ

ด้วยแนวคิดแห่งการผสมผสานความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของธรรมชาติกับวิถีชีวิต ซึ่งนำเอาความสะดวกสบายของเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้วันนี้ได้เสนอ “บ้านดิน” ซึ่งเป็นบ้านพักรูปแบบใหม่ นอกเหนือจากบ้านแบบเรือนหมู่ (Cottages) และแพพักปรับอากาศ (Air-Conditioned Floating House) สำหรับผู้ที่รักและต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติทุกท่าน

“บ้านดิน” (Baanploypratharn Earth Cottages) เป็นรูปแบบบ้านที่มีโครงสร้างจากอิฐดินดิบ ที่ไม่ได้ผ่านการเผา อันเกิดจากการผสมดินเหนียวคุณภาพดี กับแกลบและทรายคุณภาพสูง ซึ่งทนต่อสภาพอากาศและแข็งแรงทนทนทาน ด้วยภูมิปัญญาและความสามารถของชาวบ้านในท้องถิ่น “บ้านดิน”เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยเอาใจใส่ตั้งแต่การหาวัสดุอุปกรณ์ จนถึงการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่า บ้านดินที่ถูกสร้างขึ้นมีความแข็งแรง คงทน และมีความสะดวกสบาย พร้อมเปิดรับลมเย็นๆของลำน้ำแควน้อยที่ไหลรินอยู่เบื้องหน้าได้อย่างเหมาะสมและลงตัวอย่างที่สุด

บ้านดินนั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยบานหน้าต่างโปร่งด้านหน้า ที่จะให้คุณเปิดออกรับลมและมองวิวทิวทัศน์ได้รอบบริเวณ นับได้ว่าเป็นมุมที่สวยที่สุด ที่คุณจะสามารถมองเห็นวิวของลำน้ำแควน้อยได้เป็นอย่างดี ในส่วนการตกแต่ง ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติในหลายๆส่วน โดยการนำเอาวัสดุธรรมชาติ ที่ปลอดภัยและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มาประดับและตกแต่ง ในส่วนของห้องนอนและห้องน้ำก็เพียบพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน เรียกได้ว่าเป็นชิ้นงานร่วมสมัยที่ผสมผสานธรรมชาติกับวิถีการดำเนินชีวิตเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว

ภายในบ้านดิน

นอกจากภายนอกของบ้านดินจะสะดวกสบายด้วยบรรยากาศของร่มไม้ที่ร่มรื่นแล้ว ภายในของบ้านดินก็ละเมียดด้วยการตกแต่งและประดับตามแนวคิด "อิงธรรมชาติ" โดยวัสดุตกแต่งภายใน ล้วนทำให้คุณรู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นดินกรวดขัด ที่ให้ความเย็นสบาย และนวดเท้าเมื่อยามเดินภายใน ฝาห้องที่เป็นดินบล๊อก ช่วยให้คุณเย็นสบายยามพักผ่อน ช่วยในการรักษาความเย็นของร่างกายของคุณ ช่วยให้ระบบการไหลเวียนทำงานอย่างปกติ











"บ้านดิน" หรือ "Earth Cottages" เป็นบ้านรูปแบบใหม่ที่นอกจากจะทำให้ผู้ที่ได้อยู่ในบ้านจะได้เย็นสบายแล้ว บ้านดินยังมีประโยชน์ในแง่อายุรเวช หรือด้านบำบัดทางร่างกายที่จะช่วยทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลาย จากธาตุดินและธาตุลมที่สามารถไหลเวียนได้เป็นอย่างดีภายในบ้าน บ้านดินออกแบบตามหลักอายุรเวช ที่เราได้ศึกษาทางด้านนี้มาเป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกสดชื่น และเย็นสบาย ซึ่งต่างจากรีสอร์ทโดยทั่วไป

วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553

ไอเดียติดม่านรับหน้าร้อน

สู้กับแดดร้อนๆ นอกบ้านไม่ไหว ก็เข้ามาหลบพักในบ้านกันเถอะค่ะ ค่อยอาศัยหน้าต่างกระจก
บานกว้างเป็นตัวเชื่อมระหว่างความเย็นสบายภายในกับธรรมชาติภายนอก
และถ้าให้ดียิ่งขึ้น ก็อย่าปล่อยให้หน้าต่างกระจกโปร่งจนเปลือย
หาวิธีแต่งม่านสวยเพื่อสร้างบรรยากาศให้กับห้องกันดีกว่า



ม่านม้วน
บ้านทันสมัยตกแต่งภายในสไตล์โมเดิร์น โดยเน้นความเรียบโล่งจากเส้นสายที่น้อยดูสบายตา
เพื่อให้เกิดพื้นที่ว่างให้หายใจได้อย่างสบายตัว หน้าต่างกระจกบานใหญ่จึงเป็นจุดเปิดสำคัญ
ในการเชื่อมต่อสัมผัสธรรมชาติและสีเขียวของต้นไม้หรือสีฟ้าจากสระน้ำข้างบ้าน
ม่านที่เหมาะกับหน้าต่างทรงเรียบตรงแบบนี้ก็ต้องดูเรียบและทันสมัยไปด้วย
เช่น ม่านม้วนที่ใช้ใยสังเคราะห์ช่วยกรองแสง และสามารถชักรอก
เพื่อม้วนเก็บได้อย่างเรียบร้อยโดยไม่เกะกะสายตา




มู่ลี่ไม้้
ห้องนั่งเล่นหรือรับแขกเป็นมุมที่ใช้บ่อยในช่วงเวลากลางวัน
จึงเป็นห้องที่ต้องการแสงธรรมชาติมากที่สุดห้องหนึ่งของบ้าน ขณะเดียวกันเพราะเป็นห้องที่เน้น
ความรู้สึกผ่อนคลาย จึงนิยมใช้วัสดุไม้มาประกอบการตกแต่งเสมอ รวมไปถึงมู่ลี่ไม้ที่ช่วยสร้าง
ดีไซน์ให้กลมกลืนกับห้อง ทั้งยังสามารถปรับระดับมู่ลี่เพื่อรับแสงในแบบที่ต้องการ
ทำให้ได้แสงเงาเป็นลาย ทว่าเมื่อปิดทึบก็ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นเช่นเดิม


ม่านแนวตั้ง
ปกติสำนักงานหรือออฟฟิศหลายแห่งมักนิยมใช้ม่านแนวตั้งแบบนี้
แต่ความจริงเราสามารถนำม่านแนวตั้งมาปรับใช้กับบ้านได้เช่นกัน
ม่านแนวตั้งเหมาะสำหรับบังแสงแดดจากทิศตะวันออกและตะวันตก
หากปรับระดับของม่านให้เปิดก็จะได้มุมมองผ่านที่แตกต่างออกไป
และหลายคนยังเชื่อว่าม่านแบบนี้ทำความสะอาดได้ง่ายด้วย




ม่านผ้าไหม
การเลือกผ้าม่านก็เหมือนแฟชั่นอย่างหนึ่ง ที่ต้องเลือกโทนสี วัสดุหรือสัมผัสให้เข้ากับส่วนอื่นๆ
ภายในห้อง ซึ่งวัสดุที่นิยมนำมาทำม่านส่วนใหญ่มักจะเป็นผ้า ไม่ผ้าลินินก็ผ้าไหม
โดยเฉพาะผ้าไหมที่เพิ่มความรู้สึกหรูหราขึ้น เมื่อนำมาใช้กับช่องหน้าต่างสูงแบบ Double
Volume จะได้แนวม่านสูงสง่าที่ทิ้งตัวลงมาอย่างงดงาม และสามารถติดเป็นม่านสองชั้น
ชั้นบางไว้สำหรับเวลาที่ต้องการแสงภายในมากหน่อย
ส่วนม่านผืนหน้าใช้เมื่อต้องการลดแสงภายในให้น้อยลง




ม่านพับ
เป็นอีกไอเดียที่หลายบ้านนิยมใช้ เพราะได้ทั้งความเรียบง่ายให้สัมผัสที่อบอุ่นจากวัสดุผ้า
รวมถึงมีดีไซน์ที่สามารถเข้ากับบ้านได้แทบทุกสไตล์ แต่ส่วนใหญ่นิยมเป็นผ้าสีครีมหรือสีเบจ
เพื่อแทนโทนสีที่เป็นกลาง ภายในห้องอาจปูด้วยพื้นไม้หรือใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ได้อย่างกลมกลืน
ม่านพับยังช่วยปิดบังทัศนียภาพรกตาในเรื่องของสายไฟแนวสูง
โดยยังคงเปิดให้เห็นธรรมชาติของต้นไม้ใบหญ้าแนวราบได้


ม่านปรับระดับ
ด้วยดีไซน์ของการเลื่อนขึ้นเลื่อนลงแบบใหม่ๆ ทำให้ม่านสามารถสร้างมุมมองที่แตกต่างภายใน
ห้องได้มากขึ้น อย่างม่านเลื่อนปรับระดับแบบนี้ ออกแบบมาให้สามารถเลื่อนเปิดช่องบน
ปิดช่องล่างหรือเปิดเฉพาะช่องกลางก็ได้ เพื่อให้ผู้ใช้เลือกเปิดเฉพาะมุมที่ต้องการมองสู่ภายนอก
และปิดบริเวณที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แถมยังเลือกโทนสีที่เข้ากับห้องได้เช่นกัน

ข้อมูลจาก
Home&Decor Vol.19 No.227

แต่งบ้านไม้สไตล์โมเดิร์น

แต่งบ้านไม้สไตล์โมเดิร์น



"ไม้" คือวัสดุตกแต่งบ้านยอดนิยมตลอดกาล โดยเฉพาะสำหรับคนไทย เพราะเราอยู่บ้านไม้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร
แต่ด้วยรูปแบบการดำเนินชีวิตและอิทธิพลจากประเทศตะวันตก ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนหน้าตาบ้านเรือนของเรา
ให้เข้ากับยุคสมัย บ้านรูปทรงเรียบๆดูโมเดิร์นจึงเข้ามาแทนที่บ้านไทย และมีวัสดุแปลกๆใหม่ๆผลิตออกมาเป็น
ทางเลือกมากมาย แต่สำหรับผู้ที่ยังชอบสัมผัสธรรมชาติที่อบอุ่นของ "ไม้"
การผสมผสานไม้ให้เข้ากับบ้านโมเดิร์นก็ทำได้ไม่ยาก และรับรองว่าดูดีไม่แพ้วัสดุทันสมัยใดๆเลย


ไอเดีย 1 ผนัง
กรุผนังด้วยไม้ตามแนวขวางโดยเลือกผสมไม้ที่ต่างชนิดกันเช่น ไม้โอ๊ก ไม้แอช และไม้สัก
หรือเลือกย้อมให้มีเข้ม-อ่อนแตกต่างกันเล็กน้อย ทำให้เกิดสีเหลือบที่ดูน่าสนใจ อาจปูต่อเนื่องมาจนถึงพื้น
เข้ากันได้ดีเฟอร์นิเจอร์หรืออ่างอาบน้ำรูปทรงเรียบเท่ทันสมัย


ไอเดีย 2 ฝ้าเพดาน
ลองใช้วีเนียร์ไม้ลายที่ชอบปิดทับบนแผ่นไม้อัดมากรุทับฝ้าเพดาน
จะช่วยให้ฝ้าเรียบๆดูเก๋ไก๋ขึ้นได้ หรืออาจจะออกแบบให้มีการเล่นจังหวะของฝ้า
โดยตีฝ้าแบบซิกแซ็ก แล้วค่อยกรุตามด้วยวีเนียร์ก็จะเพิ่มความน่าสนใจได้มากทีเดียว


ไอเดีย 3 ไม้สีเดียวกัน
การปูพื้นไม้เป็นเรื่องที่นิยมทำกันอยู่แล้ว แต่ลองใช้ไม้สีเดียวกันปูพื้นเรื่อยไปจนถึงบันได วงกบประตู
และอาจรวมถึงเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินด้วย จะช่วยให้บ้านไม้ของคุณดูกลมกลืน เรียบเกลี้ยงคล้ายกับบ้านสไตล์ญี่ปุ่นได้


ไอเดีย 4 ประตู
ลองใช้วีเนียร์ไม้ปิดที่บานประตูแทนการใช้ประตูบานลูกฟัก โดยอาจติดเป็นช่วงๆตามแนวขวาง
แล้วตีเส้นคั่นด้วยสเตนเลสสตีล ทำมือจับให้มีขนาดใหญ่ เป็นเส้นตรงเรียบๆทำด้วยสเตนเลสสตีลเช่นกัน
แค่นี้ประตูไม้ก็ดูโมเดิร์นขึ้นมาได้มาก อาจลองใช้คู่กับเสาที่หุ้มด้วยสเตนเลสสตีล และผนังทาสีสดอย่างในรูป
ช่วยให้บ้านไม้ดูสดใสขึ้น


ไอเดีย 5 ยกพื้น
การยกพื้นเพื่อกำหนดพื้นที่ใช้งานเป็นสิ่งที่นิยมทำกันมากในบ้านเรือนไทย
เราอาจประยุกต์นำมาใช้ในส่วนห้องนอนแทนเตียงก็ได้ เพื่อให้มีกลิ่นอายของบ้านไทย
โดยปูพื้นไม้ให้ต่อเนื่องกันทั้งสองระดับ ให้ดูเรียบๆตามสไตล์บ้านโมเดิร์น ได้บรรยากาศสบายแบบบ้านไทยด้วย


ไอเดีย 6 รั้ว
รั้วไม้อาจดูสวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่ก็ผุพังง่ายเพราะต้องตากแดดตากฝน
การเลือกทำรั้วก่ออิฐฉาบปูนเรียบทาสี แล้วนำไม้จริงมาประดับในบางส่วน ก็ช่วยให้รั้วบ้านดูโมเดิร์น
ขณะเดียวกันก็ยังได้สัมผัสของไม้รับกับต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่ใกล้เคียง
โดยอาจเลือกซื้อไม้เก่าที่มีร่องรอยผ่านกาลเวลามาใช้ ก็ได้อารมณ์ดิบๆดี


ไอเดีย 7 ไม้ไผ่โมเดิร์น
ไม้ไผ่ก็เป็นไม้อีกชนิดหนึ่งที่คนไทยใช้สร้างที่อยู่อาศัยกันมาเนิ่นนาน
ซึ่งสามารถนำมาตกแต่งบ้านให้ดูทันสมัยได้ไม่ต่างจากไม้ชนิดอื่น โดยนำไม้ไผ่มาผูกเรียงกันให้แข็งแรง
ทำเป็นฝ้าหรือผนังในส่วนที่ต้องการบรรยากาศแบบธรรมชาติ เช่นห้องน้ำกลางแจ้ง
แต่ต้องวางลำไผ่เรียงกันให้เป็นระเบียบ และลดทอนรายละเอียดขององค์ประกอบข้างเคียง
เช่น ใช้คู่กับผนังซีเมนต์ขัดมัน และเฟอร์นิเจอร์รูปทรงเรียบๆเพื่อให้คงอารมณ์แบบบ้านโมเดิร์นไว้


Tips
1.ท่องให้ขึ้นใจว่าองค์ประกอบของบ้านสไตล์โมเดิร์นก็คือเส้นสายตรง เรียบง่าย เน้นรูปแบบที่เรียบๆ
รายละเอียดน้อยๆเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบใดๆในบ้าน รวมถึงการโชว์เนื้อแท้ของวัสดุอย่างตรงไปตรงมา

2.การเลือกแต่งบ้านด้วยไม้ซึ่งมีลวดลายธรรมชาติไม่เป็นระเบียบ ให้ดูโมเดิร์น สามารถทำได้โดย
ซอยไม้เป็นแผ่นเล็กๆให้เห็นแนวรอยต่อของไม้ที่เป็นเส้นตรง โดยอาจตีเว้นร่องหรือไม่ก็ได้

ผสมวัสดุใหม่ทันสมัยอย่าง สเตนเลสสตีล อะลูมิเนียม กระจก หินสังเคราะห์
หรือพื้นผิวของซีเมนต์ขัดมัน เข้าไปตกแต่งประกอบกับไม้

พื้นไม้ที่มีพื้นที่กว้างๆควรเบรกสายตาด้วยพรมชิ้นสีเรียบๆ
หรือลวดลายโมเดิร์นเพื่อไม่ให้มองเห็นไม้มากเกินไป

ในซอกหลืบหรือมุมที่ไม้มาชนกัน ทำให้ดูมืดเป็นมุมอับ
อาจแก้ไขโดยซ่อนไฟไว้ในหลืบ หรือเว้นช่องไว้แล้วซ่อนไฟจะช่วยให้บรรยากาศดูโมเดิร์นขึ้น

3.บัวพื้นหรือบัวเพดานเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในบ้านโมเดิร์น หากจำเป็นต้องมีควรเลือกแบบที่เรียบที่สุด

4.สมัยนี้ไม้จริงหายากและราคาแพง อาจเลือกใช้วีเนียร์ไม้ในการตกแต่งส่วนที่ไม่ต้องใช้งานหนัก อย่างเช่น
ผนัง เพดานและหน้าบานตู้แทนไม้จริงก็ได้ (วีเนียร์ไม้คือแผ่นไม้บางๆที่ฝาน ปอก หรือเลื่อยออกจากไม้ซุง
แล้วนำไปปิดบนแผ่นไม้อัดเพื่อให้แข็งแรงเมื่อจะนำมาใช้งาน โดยอาจนำไปกรุผนัง หรือทำเฟอร์นิเจอร์
วีเนียร์มีลวดลายและสีสันให้เลือกมากมาย รวมถึงลายของไม้จากต่างประเทศที่หาไม่ได้ในบ้านเรา
ปัจจุบันมีการทำลวดลายวีเนียร์เลียนแบบไม้ธรรมชาติ เนื่องจากหาได้ยากและราคาแพง)

ที่มา บ้านและสวน ฉบับที่ 343

5 ไอเดียง่ายๆกับการพาบ้านไปพักผ่อน

5 ไอเดียง่ายๆกับการพาบ้านไปพักผ่อน

Rest Room,แต่งบ้าน

หลายคนที่ต้องทำงานทุกวันจะหยุดก็เพียงวันอาทิตย์เท่านั้น จึงอยากพักผ่อนอยู่กับบ้านมากกว่าออกไปเที่ยวนอกบ้าน
เรามีไอเดียมาทำให้บ้านของคุณในแต่ละวันก็เป็นวันพักผ่อนค่ะ

1. เพิ่มเติมสีสันให้กับบ้าน
สำหรับคนที่พอมีเวลาว่าง อาจหาเวลาสร้างสีสันให้กับบ้านได้
ด้วยการทาสีผนังใหม่หรือสร้างลวดลายบนผนังด้วยดอกไม้ กิ่งไม้ เป็นต้น
แต่หากไม่ค่อยมีเวลา อาจเปลี่ยนสีสันของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆแทนก็ได้
เช่น ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ผ้าปูโต๊ะ ผ้าม่าน พรม เป็นต้น
โดยการเลือกลวดลายหรือสีให้ไปในทิศทางเดียวกันเช่น ลวดลายเกี่ยวกับทะเล
ดอกไม้ ผลไม้ เป็นต้น โดยโทนสีต่างๆสามารถสร้างอารมณ์ได้ เช่น
- สดชื่น มีชีวิต ชีวาด้วยการใช้สีโทน ขาว ฟ้า น้ำเงิน รวมทั้งสีในโทนเขียว
- อบอุ่นน่าพักผ่อน ด้วยการใช้สีเอิร์ธโทนที่ไม่เข้มมาก เช่น สีอิฐ สีน้ำตาลหรือสีในโทนส้ม
- อ่อนหวาน โรแมนติก ด้วยการเลือกใช้สีอ่อนๆแบบพาสเทล เช่น สีขาว สีครีม
หรือสีในโทนเหลือง


2.เปิดรับธรรมชาติ
เปิดบานประตูหน้าต่างๆให้กว้างเข้าไว้เพื่อรับแสงแดดอากาศและได้เห็นบรรยากาศภายนอก
ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบหญ้าได้อย่างชัดเจน บ้านจะดูสว่างขึ้น นอกจากนี้สายลมและแสงแดด
ยังทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่ง ส่งผลให้ผู้ที่อยู่อาศัยรู้สึกสบายและผ่อนคลาย
ยิ่งหากพื้นที่รอบข้างเป็นทิวทัศน์ธรรมชาติด้วยแล้ว ก็สามารถใช้เป็นจุดพักผ่อนสายตาได้อีก


3.สร้างบรรยากาศให้บ้าน
การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในการใช้ของตกแต่งเล็กๆน้อยๆภายในบ้าน
เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศ โดยควรให้เข้ากับสีสันและลวดลายของเฟอร์นิเจอร์ที่เราได้
เปลี่ยนแปลงไป เช่น ต้องการบรรยากาศทะเล ให้ใช้โมบายเปลือกหอย ภาพวาดหรือ
มู่ลี่เกี่ยวกับทะเล หากต้องการบรรยากาศดอกไม้ ก็นำดอกไม้มาใช้ตกแต่งทำเป็นแจกัน
ตั้งหลายๆมุมหรือจะใช้ภาพวาดหรือมูลี่เกี่ยวกับดอกไม้แทนก็ได้


4.เลือกแต่งเพียงบางมุม
สร้างบรรยากาศให้กับบ้านแบบประหยัดได้ ด้วยการเลือกตกแต่งเพียงบางมุมที่คุณใช้งาน
บ่อยๆ โดยเลือกของตกแต่งที่ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงหรือเข้าชุดกัน แต่สามารถสื่อถึง
อารมณ์ที่เราต้องการได้ แล้วนำมาจัดวางรวมกันสไตล์มิกซ์แอนด์แมทช์
ก็จะได้มุมพักผ่อนแบบง่ายๆแล้ว


5. ปิกนิกอยู่กับบ้าน
สำหรับบ้านที่พอจะมีพื้นที่สวน เพียงแค่ออกมาเดินเล่นในสวนแล้วหามุมเหมาะๆใต้ร่มไม้
สักมุม เพื่อใช้เป็นที่สำหรับผูกเปลญวนหรือปูเสื่อทำเป็นมุมนั่งเล่นนอนเล่นรับลมเย็นๆ
ก็เหมือนได้ไปเที่ยวแล้ว หรืออาจจะชวนเพื่อนๆขนอุปกรณ์ปิกนิกมาจัดปาร์ตี้กันในสวน
ก็ดูสนุกไปอีกแบบทีเดียว

เห็นไหมคะว่าการเราสามารถพักผ่อนที่ไหนก็ได้ในบ้านของเรา อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะคะ
แล้วจะเห็นว่าความสุขนั้นเราสามารถสร้างได้จากบ้านของเรานั่นเองค่ะ

โดย ชุติมา สุวานิชย์
แหล่งอ้างอิง
เรื่อง : ดำรง ลี้ไวโรจน์ นิตยสารบ้านและสวน ฉบับที่ 364

เรื่องของพื้นที่ไม่พื้นๆ

ไอเดีย เรื่องของพื้นที่ไม่พื้นๆ

Idea 01 ลีลาเป็นต่อ


สถานที่ : Praseban Resort จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

การเลือกวัสดุมาปูพื้นไม่จำเป็นต้องใช้ประเภทเดียวเสมอไป
ในพื้นที่กว้างๆเราอาจใช้วัสดุที่แตกต่างกันเพื่อสร้างจุดเด่นให้พื้นได้ เช่น หญ้าหรือกรวดที่กดลงไปบนพื้นซีเมนต์
ในบางตำแหน่งเราอาจใช้การเจาะช่องพื้นให้เป็นลายกราฟิกเพื่อปลูกหญ้า
แต่ขอแนะนำให้เลือกลายที่ไปในทิศทางเดียวกันหรือดูคล้ายกัน เพื่อเป็นการคุมภาพรวมในสวน



Idea 02 เป็นเหลี่ยม แต่ไม่เลี่ยน


สถานที่ : Praseban Resort จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

การหล่อแผ่นคอนกรีตปูพื้นทำได้ไม่ยาก แต่รูปแบบของพื้นมีให้เลือกไม่มากนัก
เพื่อลดความน่าเบื่ออาจเว้นช่องไว้โรยกรวดสลับสีบ้าง บางช่องปลูกต้นไม้ ก็จะช่วยลดความแข็งของพื้นที่ได้
แต่หากเป็นพื้นที่แคบๆ การเว้นช่องแบบสุ่มน่าจะเพิ่มความน่าสนใจได้ดี
ขณะที่พื้นที่กว้างๆอาจเลือกการเว้นช่องแบบซ้ำ เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานและดูไม่ลายตาจนเกินไป



Idea 03 ธรรมชาติสร้างมา


สถานที่ : ร้านบันดาลี

บ้านใครที่มีบรรยากาศแบบธรรมชาติ หรือจัดสวนป่าไว้ ไอเดียนี้คือทางเลือกที่น่าสนใจ
โดยเลือกแผ่นไม้ที่ได้จากการฝานลำต้นไม้ให้เป็นแผ่น จะเลือกแบบที่เป็นแผ่นกลมๆ หรือที่มีรูปทรงแปลกตาม
ลักษณะของลำต้นก็ได้ นำมาเรียงกระจายสลับกับการโรยกรวด ยิ่งถ้าพื้นไม้ดูเก่าๆ ผ่านน้ำ แดด ลม ฝนมา
เราก็จะได้พื้นในสวนที่งามเป็นธรรมชาติและดูขลังอยากบอกใครเลยเชียว



Idea 04 พื้นออกลาย



ในส่วนที่เราต้องการเน้นให้เกิดจุดเด่นในพื้นที่ ก็อาจใช้วิธีกำหนดขอบเขตให้เด่นชัดด้วยการทำขอบหรือ
เลือกใช้วัสดุและสีสันที่แตกต่างไปจากพื้นที่สวนโดยรวม ในภาพใช้ลูกเซรามิกทรงกลมหรือ
ลูกบดที่อยู่ในเครื่องบดของกระบวนการผลิตหินและงานเซรามิก (แต่อาจหาซื้อยากหน่อย
สามารถประยุกต์ใช้กรวดแม่น้ำแทนได้) เป็นตัวกำหนดขอบเขต ส่วนพื้นที่ด้านในใช้การเพ้นต์พื้นให้มีสีสัน
และลวดลายน่าสนใจ สร้างความแตกต่างจากพื้นที่โดยรอบที่เป็นกรวดแม่น้ำขนาดเล็ก



Idea 05 พื้นสวนของจิตกร


สถานที่ : Chelsea Flower Show 2008

วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีฝีมือทางศิลปะ โดยเลือกใช้เพียงมุมใดมุมหนึ่งของพื้นสวน แล้วเพ้นต์แสดงฝีมือให้เป็นที่
ประจักษ์ แต่ต้องใช้สีที่ทนสภาพแวดล้อมและการใช้งานหน่อยนะ อย่างเช่นสีอะคริลิกยืดหยุ่นสูง
หรือถ้ามีเวลาและมีพื้นที่มากพอก็ลองวาดให้ในแต่ละส่วนของสวนต่อเนื่องกันไปเป็นเรื่องราว
พื้นสวนของคุณก็จะกลายเป็นแกลเลอรี่ขนาดย่อมดีๆนี่เอง



Idea 06 ผสมผสานลานในสวน




ในช่วงที่มีการตัดกันของทางสัญจรในสวน เราสามารถทำเป็นลานเพื่อใช้ประโยชน์ และมีพื้นที่ให้เดินสวนกันได้
อาจเลือกใช้วัสดุที่เชื่อมโยงกันของแนวทางเดิน หรือเว้นช่องเพื่อให้หญ้าเลื้อยเข้าไปได้
ก็จะทำให้ลานดูมีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น แต่ควรระวังเรื่องการใช้เส้นสายและประเภทของวัสดุด้วย
เพราะหากมากเกินพอดี ก็จะดูสับสนมากกว่าสวยนะ



Idea 07 พื้นไม้ของจอมยุทธ์ (Hong Kong Flower Show 2009)



ถือเป็นไอเดียที่มาจากธรรมชาติโดยแท้ พื้นทำจากกระบอกไม้ไผ่ที่ตัดเป็นท่อนๆ นำมาเรียงต่อกับเป็นผืน
ได้อารมณ์แบบจีนดี ข้อดีคือพื้นผิวของพื้นจะมีเท็กซ์เจอร์ไม่เรียบ ทำให้ไม่ลื่น (ได้ง่ายๆ)
แต่อาจวางเฟอร์นิเจอร์ลำบากสักหน่อย เราอาจเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบเต็มๆฐานใหญ่ๆเพื่อความมั่นคง
และควรระวังเรื่องระยะเวลาการใช้งาน และไม่ควรเรียงกับพื้นดินโดยตรง
เพราะความชื้นจากดินจะทำให้ไม้ผุได้ง่าย ควรวางเรียงบนพื้นแข็งที่เตรียมไว้
แล้วหมั่นเคลือบยากันความชื้น กันปลวก กันมอดบ่อยๆ



Idea 08 พื้นสุดฮิต แต่ดูฮิป



วัสดุปูพื้นยอดฮิตอีกอย่างคือบล็อกปลูกหญ้า ใช้ได้ไม่มีตกยุค แต่พื้นสวนไม่จำเป็นต้องเป็นวัสดุพื้นแข็ง เสมอไป
การใช้บล็อกหญ้าปูเป็นขอบ ส่วนด้านในปูแผ่นหินทรงอิสระทั่วทั้งสวน และปลูกหญ้าขึ้นแซม
เพียงเท่านี้ก็ได้พื้นสวนที่ดูอ่อนนุ่มขึ้นแล้ว ใครอยากให้ดูเท่ขึ้นก็ทำสีบล็อกหญ้าให้โดดเด่นไปเลยก็ได้

ที่มา นิตยสารบ้านและสวน ฉบับที่ 393