วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

พาชมพระที่นั่งวิมานเมฆ

พระที่นั่งวิมานเมฆ

ท่องเที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆพระที่นั่งถาวรองค์แรกสมัยรัชกาลที่5
ท่องเที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆ

พระที่นั่งวิมานเมฆ เป็นพระที่นั่งถาวรองค์แรกที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ภายในสวนดุสิต สวนดุสิต เป็นอุทยานสถาน ที่สร้างขึ้นเมื่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จพระราชดำเนินกลับจากประพาสทวีปยุโรปในปี พุทธศักราช ๒๔๔๐ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดซื้อที่สวนและนาระหว่างคลองผดุงกรุงเกษม จรดคลองสามเสน ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์)

เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๔๓ มีพระบรมราชโองการให้รื้อย้าย พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ จาก พระจุฑาธุชราชฐาน ณ เกาะสีชัง มาปลูกสร้างขึ้นใหม่โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยา นริศรานุวัตติวงศ์ ทรงกำกับการออกแบบ และเมื่อแล้วเสร็จจึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการเฉลิมฉลองพระที่นั่งวิมานเมฆเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๔๔

พระที่นั่งวิมานเมฆ เป็นพระที่นั่งที่สร้างด้วยไม้สักทองที่ใหญ่ ที่สุดในโลก
มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่งดงามประณีตและได้รับอิทธิพลการก่อสร้างแบบตะวันตก องค์พระที่นั่งเป็นรูปอักษรตัวแอลในภาษาอังกฤษ คือ สร้างเป็นรูปสองแฉกตั้งฉากกันแต่ละด้านยาว ๖๐ เมตร สูง ๒๐ เมตร เป็นอาคาร ๓ ชั้นเฉพาะส่วนที่ประทับซึ่งเรียกว่า แปดเหลี่ยม มี ๔ ชั้น ชั้นล่าสุดก่ออิฐ ถือปูน ชั้นถัดขึ้นไปสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหมด

ท่องเที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆพระที่นั่งถาวรองค์แรกสมัยรัชกาลที่5
ท่องเที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆ

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จแปรพระราชฐานจากพระบรมมหาราชวัง มาประทับเป็นการถาวร ณ พระที่นั่งวิมานเมฆ เป็นเวลาถึง ๕ ปี จนการก่อสร้าง พระที่นั่งอัมพรสถาน เสร็จสมบูรณ์ ในปีพุทธศักราช ๒๔๔๙จึงทรงย้ายไปประทับ ที่ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕)เสด็จสวรรคตในปี พุทธศักราช ๒๔๕๓ พระที่นั่งวิมานเมฆก็ปิดร้างลงเพราะ เจ้านายฝ่ายใน ต้องเสด็จกลับมาประทับในพระบรมมหาราชวังตามราชประเพณี

ท่องเที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆพระที่นั่งถาวรองค์แรกสมัยรัชกาลที่5
ท่องเที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆ

ในปีพุทธศักราช ๒๔๖๓ ปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ ๖)พระองค์ได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯให้สมเด็จ พระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรราชชายา เสด็จมาประทับ ณ พระที่นั่งวิมานเมฆ และเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต สมเด็จพระนางเจ้า อินทรศักดิ์ศจี พระวรราชชายา ได้ทรงย้ายไป ประทับที่ พระตำหนักในสวนหงส์ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือ ของ พระที่นั่งวิมานเมฆ

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พระที่นั่งวิมานเมฆ ก็มิได้ ใช้เป็นพระราชฐาน ที่ประทับ ของเจ้านายพระองค์ใดอีก ได้แต่ปิดร้าง และทรุดโทรม ตามกาลเวลา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ ๗) แม้ว่าได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณะ ซ่อมแซม พระที่นั่งวิมานเมฆ หลายครั้ง เช่น การซ่อมเปลี่ยนสายไฟฟ้า ภายในองค์พระที่นั่ง การซ่อมเสามุข ศาลาท่าน้ำ เป็นต้น แต่ในที่สุด ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๗๕ เป็นต้นมา พระที่นั่งวิมานเมฆก็ใช้เป็นเพียง สถานที่เก็บราชพัสดุ ของสำนักพระราชวังตลอดมาถึง ๕๐ ปี

ท่องเที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆพระที่นั่งถาวรองค์แรกสมัยรัชกาลที่5
ท่องเที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆ

จนกระทั่งปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ ในมหามงคลสมัยสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงสำรวจและ พบว่า พระที่นั่งวิมานเมฆ ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มีลักษณะ ทางสถาปัตยกรรม ที่ประณีตงดงาม และยังมีภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ รวมถึง ศิลปวัตถุส่วนพระองค์ เป็นจำนวนมาก จึงทรงขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาตจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บูรณะซ่อมแซม เพื่อจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อเป็น มรดกของชาติสืบไป

พระที่นั่งวิมานเมฆ นี้มีห้องจัดแสดงรวมทั้งสิ้น ๓๑ ห้อง การจัดแสดง บางห้องยังคงลักษณะบรรยากาศในอดีตไว้ เช่น หมู่ห้องพระบรรทม ท้องพระโรงและห้องสรง เป็นต้น บางห้องจัดแสดงศิลปวัตถุแยกตาม ประเภท เช่น ห้องจัดแสดงเครื่องเงิน ห้องจัดแสดงเครื่องกระเบื้องลายคราม ห้องจัดแสดงเครื่องแก้วเจียระไน และห้องจัดแสดงเครื่องงา เป็นต้น

นอกจาก พระที่นั่งวิมานเมฆ ภายในบริเวณสวนดุสิตหรือวังสวนดุสิตนี้(ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามใหม่ว่า พระราชวังดุสิต และเรียกขานนามนี้ มาจนถึงปัจจุบัน) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดิน สำหรับสร้างพระตำหนัก และตำหนักที่ประทับ ของพระมเหสี พระเจ้าลูกเธอ และเจ้าจอมมารดาเป็นส่วนๆและพระราชทานชื่อสวน คลอง ประตู และ ถนนต่าง ๆ ตามชื่อเครื่องลายครามของจีนที่เรียกกันว่า เครื่องกิมตึ๋ง ซึ่งนิยมสะสมกันในสมัยนั้น ปัจจุบันหมู่พระตำหนัก ของพระบรมวงศานุวงศ์ ฝ่ายในดังกล่าว ได้เปิดจัดแสดง พร้อมด้วยโรงรถม้าพระที่นั่งให้ประชาชน ได้เข้าชมด้วยเช่นกัน www.palaces.thais.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น