วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

พลังแห่งศรัทธาก่อกำเนิด สิ่งก่อสร้างงานออกแบบสถาปัตยกรรม อันมหัศจรรย์ นครวัด


[untitled.bmp]


[ccc.bmp]


[post-128309-1262078643.jpg]


[196086-42.jpg]


[Angkor-wat2.jpg]


[bild6g.jpg]


[155398.jpg]


[nakonwat.jpg]

[angkorwat7.jpg]

[angkorwat2.jpg]

[angkorwat6.jpg]

[232312_4341457.jpg]

[angkorwat3.jpg]

[232312_4341270.jpg]

[232312_4341255.jpg]

[232312_4341234.jpg]

[800px-Angkor-Wat-from-the-air.jpg]



ปราสาทหินที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้สิ่งก่อสร้างร่วมยุคสมัยของมัน อลังการ งดงาม และมหัศจรรย์ นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสผู้ยิ่งใหญ่ กล่าวเมื่อแรกพบสิ่งก่อสร้างแห่งนี้ว่า “See Angkor and die” ตายก็ไม่เสียดายที่มีโอกาสมาสัมผัสปราสาทหินนครวัด



แต่สำหรับมนุษย์โลกยุคปัจจุบัน ที่อาศัยอยู่ในท่ามกลางสิ่งก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมอันทันสมัยมากมาย ยุคสมัย ที่นานาประเทศแข่งขันกันสร้างตึกที่มีความสูงเสียดเมฆ เพื่อประกาศตนครอบครองตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในโลก อาจไม่ตื่นเต้นมากนักเมื่อได้มาสัมผัส กับสิ่งก่อสร้างที่อลังการนามว่านครวัด แต่หากย้อนกลับไปเมื่อครั้งสมัยที่ นักโบราณคดีชาวตะวันตกได้ฝ่าป่ารกชัฏ จนค้นพบสิ่งก่อสร้างที่ถูกชาวพื้นเมืองร่ำลือและพูดถึง เขาจะตกตะลึงเพียงใด อิ่มเอมปรีดาเพียงใด กับสิ่งที่เขาได้มาประสบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะนักโบราณคดีและนักมานุษวิทยาเช่นเขา



โลกหมุนรอบตัวเองไปอีกหลายรอบ นับตั้งแต่ที่การค้นพบสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ ที่ซ่อนเร้นอยู่กลางป่าลึกของกัมพูชาเปิดเผยตนเองสู่ชาวโลก ในที่สุดผมมีโอกาสได้เดินทางมาเยือนโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่ของโลก นครวัด -นครธม ย้อนหลังกลับไปสิบกว่าปีที่ผ่านมา การเดินทางจากประเทศไทยมานครวัดนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย



หากเดินทางโดยเครื่องบินคุณต้องไปลงที่กรุงพนมเปญและต่อทั้งรถ ทั้งเรือ กว่าจะได้เข้าถึงดินแดนแห่งนครวัด หรือไม่เช่นนั้นต้องเดินทางข้ามชายแดนด้วยรถยนต์ จากอรัญประเทศของไทย ผ่านถนนที่ไม่อาจเรียกได้ว่าถนนร่วมสามร้อยกว่ากิโลเมตรเท่านั้น จากชายแดนไทยสู่จุดหมาย แต่กลับต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางเป็นวันๆเลยทีเดียว ทุกวันนี้ถนนเส้นดังกล่าว ก็ยังคงถูกใช้เป็นเส้นทางเดินทางท่องเที่ยว สู่ปราสาทนครวัดของนักท่องเที่ยว ที่ชอบผจญภัย งบน้อย สภาพถนนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังไม่ดีมากนัก



แต่การเดินทางเยือนนครวัดที่สะดวกสบายที่สุด คือการเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ จากกรุงเทพมุ่งตรงสู่นครวัด หลายคนบอกว่าการมีสายการบินผูกขาดนี่เอง ทำให้ถนนเส้นสำคัญที่มุ่งตรงสู่นครวัดจากไทย ไม่ได้รับการพัฒนาให้คืบหน้าอย่างเช่นที่มันควรจะเป็น จะอย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดอย่างเช่นพวกเรา การเดินทางด้วยทางรถยนต์เป็นสิ่งที่น่ารื่นรมย์ที่สุด ลำบากเล็กน้อย หากแต่ได้พบเห็นภาพชีวิตสองข้างทางถนน ย่อมเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการนั่งรถทั้งวัน



ทุกวันนี้แม้ว่าสถานะทางการเมืองของกัมพูชาจะยังไม่มั่นคง แต่ก็นับว่าดีขึ้นกว่าที่ผ่านมามาก เมืองเสียมเรียบที่ตั้งของนครวัดมีที่พักหลากหลายระดับให้เลือก ตั้งแต่ห้าดาวจนกระทั่งเกสต์เฮ้าส์ เสน่ห์และความมหัศจรรย์ของก้อนหินเพียงเท่านั้นหรือ ที่นำพาผู้คนจากทั่วทุกสารทิศสู่ดินแดนแห่งนี้
เช้าตรู่วันนั้น หลังจากจัดการเรื่องค่าธรรมเนียมการเข้าชมโบราณสถานเรียบร้อยแล้ว เราเลือกที่จะมุ่งตรงไปยังปราสาทบายนก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อสัมผัสกับพระพักตร์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อันขึ้นชื่อ ผมไม่แปลกใจเลยที่นักโบราณคดีชาวตะวันตกจะหลงไหลและตื่นตะลึง จนก่อเป็นความประทัปใจ เมื่อพวกเขาฝ่าป่าที่รกชัฏเข้ามาพบกับปราสาทแต่ละหลัง ที่กระจายตัวกินบริเวณกว้าง อาณาจักรแห่งนี้มิใช่เพียงเล็กๆเท่านั้น ถ้าคุณเข้าใจว่านครวัดคือปราสาทหลังเดียว หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ นครวัดเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นต่างยุคกับองค์ปราสาทหลังอื่น แต่มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจำนวนปราสาททั้งหมด รวมทั้งมีหลักการในการสร้างที่น่าตื่นตะลึง ได้รับการบูรณะเรียกได้ว่าน่าจะสมบูรณ์ที่สุด


เมือคุณมาเยือนนครวัด คุณมิได้เยือนเพียงแค่ตัวปราสาทนครวัดเพียงแค่องค์เดียวเท่านั้น มีปราสาทหลังอื่นๆอีกบริเวณอันกว้างใหญ่ของโบราณสถานทั้งหมด เรียกขานว่า นครธม อันเป็นอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลที่เชื่อมต่อกัน มิหนำซ้ำในปัจจุบัน ยังมีการค้นพบบูรณะสิ่งก่อสร้างอีกหลายจุดเพิ่มเติม เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม หากคุณจะสัมผัสกับสิ่งก่อสร้างต่างๆให้ครบถ้วนนั้น เวลาหนึ่งอาทิตย์อาจจะไม่เพียงพอ ที่ดำเนินไปนั้นทุกคนอาจได้ดูหลายปราสาทในหนึ่งถึงสองวัน ซึ่งเป็นปราสาทเด่นๆที่ได้รับการบูรณะอย่างดี แต่เป็นเพียงการได้ดูเท่านั้นมิใช่ได้สัมผัสและซึมซับกับความลึกลับ ความงดงาม และความอลังการของโบราณสถานเหล่านี้


ที่ปราสาทบายน ใบหน้าที่สลักเสลาอย่างวิจิตร หินแต่ละก้อนที่ประกอบกันขึ้นเป็นใบหน้านั้น ไม่ใช่ก้อนเล็กๆ มันซ้อนเรียงกันด้วยความปราณีต จัดวางอย่างมีหลักการ ผู้คนในยุคหลังกว่าที่จะบูรณะมันให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิมได้ ยังต้องใช้ทั้งกำลังคนและเครื่องมือมากมาย แต่ชาวขอมโบราณจัดการกับการออกแบบ การสลักหินแต่ละก้อนให้ลงตัวได้อย่างไร พวกเขาใช้อะไรในการคำนวณ ใช้เครื่องมือชนิดใด เป็นสิ่งที่ท้าทายจินตนาการของเราอย่างยิ่งทีเดียว โดยเฉพาะการได้มาสัมผัสโดยตรง ทั้งกายและใจ หาได้เป็นเพียงการมองมันผ่านภาพถ่าย เรารู้สึกได้ว่าหินเหล่านี้มีพลัง มันเป็นพลังงานบางอย่างที่ส่งสะท้อนออกสู่บริเวณโดยรอบ มันตรึงเรา ทุกก้าวขณะที่เดินผ่านใบหน้าแต่ละใบ ปราสาทบายน เป็นเสมือนโลกแห่งความพิศวง ความน่าตื่นเต้น และ ผจญภัยอย่างแท้จริงทีเดียว ที่จะฉุดกระชากให้จินตนาการของคุณตื่นขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง



ในอาณาบริเวณของนครธม ปราสาทตาพรม เป็นอีกสถานที่ซึ่งมีผู้คนแวะไปเยือนมากมาย ผมชื่นชอบอารมณ์อันลึกลับและขรึมขังของปราสาทตาพรมมาก รูปถ่ายของปราสาทตาพรมนั้น นับได้ว่าถูกนำไปเผยแพร่สู่โลกภายนอกหลากรูปแบบ ทั้งภาพนิ่งและภาพยนต์ ผมคิดว่าหลายคนคงเคยผ่านตารูปปราสาทที่มีต้นไม้ปกคลุม รากไม้ชอนไชไปตามรอยแตกของก้อนหิน เสมือนมันโอบกอดปราสาทหลังนี้เอาไว้ มันดูลึกลับ ในบางขณะบางมุมมันดูวังเวงและเศร้าสร้อย แต่มันเป็นปราสาทที่ผู้คนส่วนมากโปรดปราน ปราสาทหลังอื่นๆอาจได้รับการบูรณะอย่างดี แต่สำหรับปราสาทตาพรม การถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางแวดล้อมของป่าดิบ ทำให้ต้นไม้รุกคืบสู่ตัวปราสาท การที่ธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทนั้น กล่าวกันว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ส่วนที่ดีคือมันช่วยค้ำปราสาทบางส่วนไม่ให้พังทลายลงมา แต่ผลเสียคือการบูรณะด้วยการขุดรากถอนโคนต้นไม้ทิ้งนั้น มิสามารถทำได้โดยง่ายอีกทั้งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ปราสาทตาพรมในหลายส่วนจึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ในทางกลับกันมันกลับกลายเป็นมนต์เสน่ห์ เป็นอีกมิติหนึ่งหนึ่งให้กับปราสาทหลังนี


ท่ามกลางความร่มรื่นของยามบ่าย ผมปีนป่ายขึ้นไปตามรากของต้นไม้ ที่แผ่กิ่งก้านค้ำระเบียงคตของปราสาทเอาไว้ ขึ้นไปด้านบนได้อย่างง่ายดาย มีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกนั่งพูดคุยกันอยู่ด้านบนสองสามกลุ่ม รวมทั้งหนุ่มชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่นั่งเงียบๆซึมซับกับโบราณสถานอันเก่าแก่แห่งนี้อยู่ ผมเลี่ยงออกไปด้านหนึ่งเพื่อหามุมสงบของตัวเองบ้าง วางกระเป๋าสัมภาระลงบนส่วนหนึ่งของต้นไม้ และนั่งลงนิ่งฟังสรรพเสียงรอบตัว ตาพรมร่มรื่นสงบเงียบ เสียงแมลงร้องระงมไปทั่ว ต้นไม้ใหญ่สยายปีกโอบคลุมทั่วบริเวณปราสาท มีเพียงแสงแดดรำไรลอดผ่านลงมาเท่านั้น บรรยากาศสงบสบายนี้ชวนให้เข้าสู่ภวังค์ได้อย่างรวดเร็วแน่นอนว่าสำหรับการแวะมาท่องเที่ยวที่นครวัด เหนือสิ่งอื่นใดคือการไปสัมผัสกับปราสาทนครวัดที่ยิ่งใหญ่ ความอัศจรรย์ของนครวัดมีมากมาย มิเพียงแค่ความลึกลับของการก่อสร้างเท่านั้น แค่บารายหรืออ่างเก็บน้ำที่ถูกขุดขึ้น เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งนั้น หลายแห่งในเขตพระนครมีขนาดกว้างใหญ่จนอาจเรียกว่าทะเลสาบได้ บารายที่หน้านครวัดซึ่งโอบล้อมรอบตัวปราสาท หากมาในฤดูแล้งเราจะไม่เห็นความกว้างใหญ่ของมัน เพราะเราไม่คิดว่ามันคือพื้นที่เก็บน้ำ หากมาในโมงยามที่ชุ่มฉ่ำของฤดูฝน เราจะได้สัมผัสกับทะเลสาบน้ำจืดที่กว้างใหญ่ วิธีการก่อสร้าง การวางโครงสร้าง ความสัมพันธ์ของสิ่งก่อสร้างกับธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ท้าทายความใคร่รู้ของนักโบราณคดีจำนวนมาก สถานที่แห่งนี้อบอวลไปด้วยศิลปะวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และวิทยาศาสตร์ ที่ผสมกลมกลืนกั


นักท่องเที่ยวส่วนมาก มักเลือกเวลามาถึงนครวัดในช่วงบ่ายใกล้เย็น และอยู่จนกระทั่งดวงตะวันตกดิน ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด ภายในตัวปราสาทนครวัดที่กว้างใหญ่นั้นมีซอกมุมที่น่าสนใจมากมาย นักประวัติศาสตร์ และนักโบราณคดีกล่าวถึงจุดที่น่าสนใจ ที่สามารถเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ความเป็นมา ของสถานที่แห่งนี้ เป็นกุญแจเชื่อมโยงอดีตสู่ปัจจุบัน ทั้งภาพสลักบริเวณระเบียงคต ภาพจำหลักของนางอัปสร ซึ่งตามจุดดังกล่าวจะมีแสดงอยู่ในข้อมูลท่องเที่ยว หรือแม้แต่จากการแนะนำของไกด์ท่องเที่ยว แต่การแวะมาเยือนสิ่งก่อสร้างแห่งนี้ แม้จะพลาดชมจุดต่างๆเหล่านั้น เพราะมิได้ใช้บริการไกด์ หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตามไม่ใช่เรื่องที่ต้องเสียใจ เพราะว่าไม่ว่าเราจะทดลองใช้เส้นทางใด เพื่อสำรวจภายในของปราสาทนครวัด คุณก็เสมือนได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของความมหัศจรรย์ของสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่แห่งนี


ผมแวะไปสัมผัสกับภาพกองทัพชาวสยามที่เดินทัพไม่เป็นระเบียบ แวะไปดูนางอัปสรที่ว่าสมบูรณ์ที่สุด บริเวณอกของเธอถูกมือดีทั้งหลายจับจนมันวาวทีเดียว เป็นการห้ามใจที่ยากเย็นของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลาย การท่องเที่ยวนำมาซึ่งรายได้มากมาย แต่มันก็มีสิ่งที่ต้องชดใช้ เส้นทางการเที่ยวชมมักมาจบที่ด้านบนของตัวปราสาท ฝ่าขั้นบันไดที่ทั้งสูงและชัน นักท่องเที่ยวมักจะใช้เวลาที่จุดนี้นานที่สุด บางกลุ่มอยู่จนกระทั่งดวงตะวันลับฟ้า เพราะเมื่อยืนมองจากยอดปราสาทด้านบนของนครวัด เราสามารถมองเห็นดวงตะวันค่อยๆทิ้งตัวลงที่เส้นขอบฟ้า โดยมีทุ่งราบที่กว้างขวางของกัมพูชา ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิดเบียดเสียดกันอยู่ เห็นปราสาทบางหลังพ้นยอดไม้ ถูกอาบด้วยแสงสีส้มของดวงตะวันในยามเย็นงดงามยิ่งนัก


แสงสีส้มอาบไล้ไปทั่วก้อนหินสีเทา ที่ถูกวางเรียงอย่างอัศจรรย์ จนกลายมาเป็นสิ่งก่อสร้างที่อลังการ ยิ่งใหญ่ ของโลก บรรดาก้อนหินเหล่านี้ นับเป็นก้อนหินที่แสนวิเศษ และยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง มืออันเปลือยเปล่าของผมสัมผัสกับความเย็นที่ซึมผ่านออกมาจากแผ่นหิน ผมเชื่อว่าหินทุกก้อนที่ถูกนำมาประกอบกัน จนกลายมาเป็นสิ่งก่อสร้างนามนครวัดแห่งนี้ มีจิตวิญญาณ หินทุกก้อนผ่านเรื่องราวต่างมามากมาย ผ่านยุคสมัย ผ่านทั้งแสงแดดสายลมและสายฝน ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น มันผ่านอดีตข้ามกาลเวลามาจนปัจจุบัน คงยากที่จะกล่าวนิยามใดๆที่จะอธิบายการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าความรู้สึกของผู้มาเยือนสำหรับโลกยุคใหม่ จะมิอาจกล่าวได้ว่า See Angkor and die ได้แต่ภาพปราสาทหินจะคงอยู่ในความทรงจำของเรา อย่างแนบแน่นไปอีกนานเท่านาน

1 ความคิดเห็น: