วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

“มีเรื่อง..ที่หน้าบ้าน”

รั้ว ประตูบ้าน สามารถบอกนิสัยของเจ้าของบ้านได้






บ้านเกือบทุกหลังต้องมีรั้วหรือกำแพงล้อมรอบตัวบ้านเพื่อป้องกันภัยจากกการสัตว์ร้ายหรือจากบุคคลที่เราไม่พึงประสงค์จะให้เข้ามาจึงต้องมีการล้อมรั้วหรือกำแพงขึ้นแต่ก็ต้องเหลือพื้นที่เปิดทางสำหรับเข้าออกไว้ด้วย เมื่อมีทางเข้าออกก็ย่อมต้องมีประตูรั้ว ดังนั้นประตูรั้วจึงเป็นด่านแรกที่จะนำเราสู่ตัวบ้าน ความสำคัญของการจัดวางตำแหน่งทิศทางก็ต้องคำนวนไว้อย่างรอบคอบและที่สำคัญเราจะทำอย่างไรให้รั้ว ประตูบ้านของเราสวยงามน่ามองรวมทั้งสามารถให้ความสะดวกและปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัยได้วันนี้มีไอเดียที่ทำให้ประตูรั้วบ้านของคุณสวยงามแถมยังสะดวกและปลอดภัยมาฝากกันค่ะ




วิธีแรก
ตกแต่งประตูหน้าบ้านโดยการทำตู้รับจดหมายให้เป็นส่วนหนึ่งของประตูบ้าน ทั้งสะดวกในการใช้งานและให้ความสวยงาม ที่สำคัญยังทำให้ดูกลมกลืนและดูไม่รกตาอีกด้วย


วิธีที่สอง

ออกแบบประตูหน้าบ้านให้มีกันสาดสำหรับบังแดดและฝนให้กับผู้มาเยือน วิธีนี้แสดงถึงการต้อนรับและดูแลอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง เป็นวิธีการออกแบบง่ายๆช่วยป้องกันตัวประตูรั้วได้ดีอีกด้วย


วิธีที่สาม

ด้านหน้าประตูทางเข้าบ้านให้เป็นซุ้มไม้เลื้อย สำหรับใช้แทนหลังคาช่วยกันแดดได้ดี ทำให้ร่มรื่นดูสบายตา แต่ต้องหมั่นดูแลรักษาไม่ให้รกจนเกินไปด้วย


วิธีที่สี่

ถ้าจะทำแนวรั้วเป็นไม้ ไม้ที่ใช้ทำเป็นบานประตูหรือทำแนวรั้วควรเป็นไม้เนื้อแข็งเพราะจะทนทานต่อสภาวะอากาศได้ดีกว่าไม้ชนิดอื่นๆ และควรทาสีในด้านที่เป็นหน้าตัดของไม้ด้วยเพราะเป็นจุดที่น้ำสามารถซึมผ่านเข้าเนื้อไม้ได้ดีที่สุด เท่านี้ก็จะช่วยป้องกันปัญหาต่างๆของเนื้อไม้ และถ้าหากเบื่อความจำเจของประตูเหล็กหน้าบ้านที่ดูธรรมดาเกินไปไม่มีดีไซน์ ก็สามารถตกแต่งประตูรั้วให้แตกต่างจากบ้านหลังอื่นๆได้โดยการเพิ่มลวดลายกราฟิกแบบต่างๆที่ดูเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร ส่วนรั้วกำแพงที่เป็นศิลาแลงกับหินทรายแกะสลัก เป็นรั้วที่สร้างบรรยากาศของบ้านให้เป็นสไตล์บาหลี ควรหมั่นให้น้ำอย่างสม่ำเสมอก็จะเกิดตะไคร่น้ำขึ้นตามกำแพงช่วยให้ดูร่มรื่นและสวยงามขึ้น


วิธีสุดท้าย

ออกแบบโดยแนวรั้วบ้านโดยการปักหลักไม้หรือเสาปูนเรียงเป็นแนว จากนั้นหาไม้เลื้อยมาปลูก แล้วรอให้ไม้เลื่อยเติบโตพันตามหลักเสาที่ปักไว้ วิธีนี้จะสามารถทำเป็นรั้วบังสายตาได้เป็นอย่างดีรวมถึงให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้อยู่อาศัยมากขึ้นด้วย สิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้ก็คือ ระบบไฟฟ้า สำหรับไฟส่องสว่างบนรั้วหรือประตู และกริ่งประตู ซึ่งควรได้รับการออกแบบไว้ก่อนสร้างรั้ว การมาเพิ่ม เจาะและติดตั้ง ภายหลังนั้นจะทำให้เสียความสวยงาม ไม่สะดวกและช่างไม่อยากทำให้เพราะอาจทำไม่ได้ด้วยค่ะ






เท่านี้ประตูรั้วของคุณก็จะสวยงามน่ามองทั้งผู้ที่ผ่านไปมาและผู้พบเห็น ยังไงลองนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวบ้านและประตูรั้วของคุณ ที่สำคัญอย่าลืมว่าต้องคำนีงถึงความสะดวกและปลอดภัยเป็นอันดับแรกด้วยค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

แสงไฟ หลอดไฟ โคมไฟ เพื่อบรรยากาศของบ้านสวย

ลักษณะการใช้แสงไฟในที่อยู่อาศัย
แสงไฟ เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการใช้ชีวิตของมนุษย์ เพื่อทดแทนหรือเพิ่มเติมความสว่างจาก แสงธรรมชาติ เพื่อให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย หรือเป็นการเพิ่มความสว่างให้กับมุมอันมือทึบของบ้าน
หากนอกเหนือจากความสำคัญในเรื่องประโยชน์ใช้สอยแล้ว แสงไฟยังเป็นองค์ประกอบหนึ่งของ การตกแต่ง รูปแบบ และ ดีไซน์ของ โคมไฟ ชนิดต่าง ๆ เป็นรายละเอียดหนึ่งที่สร้างเสน่ห์ให้กับบ้าน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ แสงไฟ สร้างอารมณ์และบรรยากาศที่แตกต่างหันไป สามารถขับรายละเอียดของสถาปัตยกรรมให้โดดเด่น เน้นความสวยงามของ ของตกแต่ง หรือรูปภาพให้เด่นขึ้น การออกแบบโคมไฟ จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นสไตล์ และความน่าสนใจของ งานตกแต่ง เช่นกัน

หาก จะพูดอย่างง่ายที่สุด แสงไฟในที่อยู่อาศัยจะมีสององค์ประกอบด้วยกัน คือที่มาของแสงโดยตรงอันได้แก่ หลอดไฟ และรูปร่างหน้าตาของโคมไฟ หรือ โป๊ะไฟ ในการเลือกแสงไฟสำหรับบ้าน คุณไม่ควรคำนึงถึงเพียงรูปร่างของมัน แต่ต้องคำนึงถึงคุณภาพและลักษณะของการกระจายแสงด้วย ซึ่งโดยทั่วไปลักษณะการกระจายของแสงจะมีอยู่ 3 ชนิดคือ ุ
- แสงที่ส่องออกมาอย่างสม่ำเสมอในทุกทิศทาง ุ
- แสงที่ส่องออกมาทางด้านใดด้านหนึ่ง และมีความฟุ้งกระจายเล็กน้อย ุ
- แสงที่บีบให้เป็นลำแสง

เรา จำเป็นต้องเลือกลักษณะของการส่องสว่าง ให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละส่วนของบ้าน ซึ่งเราอาจแบ่งลักษณะของการใช้แสงไฟในบ้านได้เป็น 3 ประเภทคือ
แสงพื้นฐาน (Background Lighting) ุ
แสง ชนิดนี้เป็นแสงที่จำเป็นสำหรับการทดแทนแสงธรรมชาติ โดยทั่วไปมักจะเป็น โคมไฟติดเพดาน หรือโคมไฟห้อยเพดาน (Pendant) หรือตัวเลือกอย่างอื่น เช่นไฟกำแพง ไฟที่ส่องขึ้นข้างบน (Uplight) หรือ โคมไฟตั้งโต๊ะ ซึ่งทั้งหมดนี้จะให้แสงที่น่าสนใจมากกว่าการใช้แสงไฟสว่าง ๆ ดวงเดียวเหนือหัว ซึ่งจะดูน่าเบื่อและไม่ดึงดูดใจ

แสงไฟสำหรับการทำงาน (Task Light) ุ
ใน บริเวณเช่นครัว เคาน์เตอร์ ห้องทำงาน หรือที่ใดก็ตามที่มีการทำงานเฉพาะอย่างเกิดขึ้น ต้องการระดับแสงที่สว่างเป็นพิเศษ ซึ่งควรจะติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่ทำให้เงาตกลงบนงานที่กำลังทำอยู่ แสงไฟที่กำหนดทิศทางได้ เช่น ดาวน์ไลท์ โคมไฟตั้งโต๊ะ ทำงานที่ปรับมุมได้ หรือสปอตไลท์ เป็นไฟ ที่เหมาะสมสำหรับบริเวณเช่นนี้ หรืออาจใช้ไฟที่สว่างเป็นพิเศษ ซึ่งปกติมักจะใช้ในจุดที่มืดและอาจเป็นอันตรายได้ง่าย เช่น บันได หรือทางเดินภายนอกบ้าน มาใช้ในส่วนทำงานก็ได้

แสงไฟสำหรับเน้นส่วนสำคัญ (Accent Light) ุ
สำหรับ การขับเน้น ของตกแต่ง ที่จัดวางเอาไว้ แสงไฟเฉพาะจุด เช่น สปอตไลท์ จะเป็นแบบที่ได้ผลดีเป็นพิเศษ เพราะมันสามารถปรับมุมองศาสำหรับส่องสว่างได้ นอกจากนี้ ก็อาจใช้ไฟลักษณะอื่นก็ได้ เช่น ไฟส่องรูปภาพ (Picture Light) ไฟที่ซ่อนอยู่ใน ชั้นวางของ หรือ โคมไฟตั้งพื้น ที่ส่องแสงขึ้นข้างบน Floor-standing Uplight)

ประเภทของหลอดไฟ
หลอดไฟ ที่ใช้กันในบ้านมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ๆ คือ ทังสเตน (tungsten) ทังสเตน ฮาโลเจน (Tungsten Halogen) และ ฟลูออเรสเซ้นต์ (Fluorescent) ความแตกต่างระหว่างมันขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของมัน อายุการใช้งานโดยเฉลี่ย และที่สำคัญที่สุดก็คือทางด้านสุนทรียภาพ อันเกิดจากสีสันของบรรยากาศโดยรวม ที่ต่างกันไปเมื่อใช้หลอดไฟต่างชนิดกัน
เป็น แสงชนิดที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดสำหรับการใช้งานในบ้าน หลอดไฟชนิดนี้ประกอบด้วยเส้นลวดเล็ก ๆ ซึ่งส่องสว่างอยู่ภายในหลอดไฟ ที่มักเป็นกระจกแก้วใสหรือ ฝ้า และบรรจุ ก๊าซเฉื่อย (Inert Gas - ก๊าซที่จะไม่ประกอบกับวัตถุอื่น เช่น นีออน อาร์กอน ฮีเลียม) ซึ่งมีความเข้มข้นน้อย เมื่อเทียบกับแสงธรรมชาติ
ทังสเตน จะเป็นแสงที่อบอุ่น ออกโทนสีเหลือง และเหมาะสำหรับการใช้ใน งานตกแต่ง เพราะไม่ทำให้สีสันของสิ่งของเปลี่ยนไป และให้ความแตกต่างในด้านโทนที่ดี อย่างไรก็ตาม ทังสเตนมีข้อเสียกว่า หลอดไฟ ชนิดอื่นก็คือ หลอดไฟมีอายุการใช้งานสั้น และทำให้เกิดความร้อน แต่ก็มีข้อดีตรงที่ราคาไม่แพง และสามารถใช้งานร่วมกับ ดิมเมอร์ ( Dimmer - อุปกรณ์หรี่ไฟ ) ได้
ทังสเตน ฮาโลเจน หลอด ไฟ ชนิดนี้จะให้แสงที่ดูเย็นขาวกว่าและสว่างกว่า ทังสเตน โดยในหลอดไฟจะใส่ ก๊าซฮาโลเจน ซึ่งเป็นองค์ประกอบทางเคมีอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับไอร้อนจากไส้แบบ ทังสเตน ทังสเตนฮาโลเจนใช้ได้ผลดีมากในการแสดงรายละเอียดของสีสัน ทำให้ดูมีคอนทราสต์ และด้วยความที่ให้ความรู้สึกสดใสและสว่างมาก ทำให้เหมาะจะใช้กับแสงที่ส่องขึ้นข้างบน ไฟสปอตไลท์ และไฟที่เน้นจุดสำคัญ หลอดไฟชนิดนี้สามารถใช้กับ ดิมเมอร์ได้เช่นกัน

ฟลูออเรสเซนต์ ุ แสง ไฟ ชนิดนี้จะมีผลต่อสีและโทนเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม มี หลอดฟลูออเรสเซ้นต์ สมัยใหม่ที่เลียนแบบแสงธรรมชาติ และมีการใช้ชนิดของแก้วที่ใช้ทำตัวหลอดต่าง ๆ กันไป ทำให้แสงไฟดูนุ่มนวลขึ้น

คุณสมบัติของแสง

ชนิดของหลอดไฟ
สีที่ปรากฏ
สีที่ทำให้เกิด
ทังสเตน
โทนอุ่น
ส้ม แดงสดใส และสีฟ้าหม่น
ทังสเตนฮาโลเจน
ช่องทางเดินภายในอาคารอยู่อาศัยร่วมกัน
ส้ม แดงสดใส สีฟ้าที่หม่นน้อยกว่า
ส้ม แดงสดใส สีฟ้าที่หม่นน้อยกว่า
เย็น ขาว
ทำให้สีเพี้ยนเล็กน้อย และสีแดงค่อนข้างซีด
ฟลูออเรสเซ้นต์
อุ่นหรือเย็น
แตกต่างไปได้หลายแบบ
นีออน
หลายสี
แตกต่างไปได้หลายแบบ

ไฟเพดาน
โคม ไฟติดเพดาน ที่ติดตายอยู่เหนือศีรษะ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟกิ่งไฟช่อ หรือไฟติดเพดาน เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการให้กำเนิดแสง โดยทั่วไปสำหรับบ้าน อย่างไรก็ตามการใช้แสงชนิดนี้เพียงอย่างเดียว ดูจะขาดเสน่ห์ไปสักหน่อย และให้ความรู้สึกอันแห้งแล้งไร้ชีวิตชีวา ควรมีการเพิ่มแสงไฟชนิดอื่น เช่น ดาวน์ไลท์ หรือ สปอตไลท์ และติดตั้ง ดิมเมอร์ เพื่อจะได้ปรับสภาพแสงได้ตามต้องการ

ไฟที่ห้อยจากเพดาน (pendant)
รูป แบบของ โคมไฟห้อยเพดาน นั้นมีแตกต่างกันมากมาย ทั้งราคาและคุณภาพแสง โป๊ะแก้วหรือเซรามิค จะทำให้แสงกระจายออกไปเท่ากันในทุกทิศทาง แต่ถ้ามี โคม (Shades) คลุมไม่ว่าจะเป็นกระดาษ โลหะหรือผ้า จะทำให้แสงส่องลงไปข้างล่างตรง ๆ แชนเดอเลียร์ (Chandeliers) เป็นไฟเพดานที่ให้ความสว่างมากประเภทหนึ่ง เพราะมันรวมเอาหลอดไฟเล็ก ๆ มากมายไว้ด้วยกัน แต่ส่วนมากมักจะมีราคาแพง


ไฟติดเพดาน (Ceiling-mounted Light)
โดย ทั่วไปค่อนข้างจะเรียบ และถือเอาประโยชน์ใช้สอยเป็นสำคัญ ส่วนมากจะไม่มีโคมคลุม แต่อาจมีที่ครอบเป็นแก้วหรือพลาสติกคลุมให้แสงที่ส่องกระจายไปเท่ากันในทุก ทิศทาง
ไฟดาวน์ไลท์ (Downlight)
โคม ไฟไฟเพดาน ที่ทำได้ทั้งแบบทำเป็นช่องเจาะลึกเข้าไปภายใน หรือติดอยู่บนผิวหน้าของเพดาน ให้ประโยชน์ใช้สอยที่ดี และดูมีเสน่ห์กว่าธรรมดา ให้ทิศทางของแสงที่ส่องลงมาข้างล่าง และให้ได้ทั้งลำแสงแคบหรือกว้าง สามารถหันทิศทางให้ส่องไปยังกำแพงหรือพื้นผิวอื่น ๆ ได้ ดาวน์ไลท์ มีประโยชน์มาก และเป็นการให้แสงที่น่าสนใจสำหรับส่วนทำงานบางส่วน เช่น เคาน์เตอร์ในครัว หรือจะใช้เป็นไฟแบ็คกราวนด์ที่ดูน่าสนใจได้ด้วย โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ สวิทช์ไฟ แบบ ดิมเมอร์

ไฟเพดานแบบอื่น ๆ
สปอตไลท์ สามารถใช้ติดตายบนเพดาน หรือติดบนราง และใช้เป็น ไฟแบ็คกราวนด์ หรือส่องสว่างเน้นในจุดสำคัญบางจุดก็ได้ หลอดฟลูออเรสเซ้นต์แบบ ติดเพดาน เหมาะสำหรับส่วนใช้งานที่ต้องการประโยชน์ใช้สอยเต็มที่ เพื่อตัดแสงสะท้อนเข้าตา อย่าซื้อไฟโดยไม่ทดลองเปิดดูเสียก่อน
สปอตไลท์และไฟติดผนัง
สปอตไลท์
เป็น รูปแบบหนึ่งที่สามารถยืดหยุ่นได้มากที่สุดในการให้แสง ไม่เพียงแต่ใช้ในจุดที่ต้องการเน้น หรือสำหรับการทำงานเท่านั้น แต่สามารถนำมาใช้ในการให้แสงสว่างทั่ว ๆ ไปก็ได้ แม้ว่าโดยทั่วไปจะติดที่เพดาน แต่สปอตไลท์ก็สามารถนำมาติดกำแพงได้ด้วย จะใช้ดวงเดี่ยว ๆ หรือเรียงกันเป็นราวก็ได้ มีทั้งสปอตไลท์ แบบติดกับขาตั้ง หรือ สปอตไลท์ พร้อมด้วยขาแบบหนีบ ที่เคลื่อนย้ายได้ตามต้องการ
สปอตไลท์ มีรูปแบบการดีไซน์มากมาย รวมทั้งขนาดด้วย มันให้ได้ตั้งแต่ลำแสงแบบกว้าง จนกระทั่งถึงลำแสงแบบแคบเล็ก และความได้เปรียบอย่างมากของสปอตไลท์ ก็คือง่ายที่จะวางตำแหน่ง และปรับทิศทางของมัน คุณสามารถตั้งองศาทิศทางของแสงไฟ ได้หลายทิศทาง ควรรวมกลุ่มสปอตไลท์ มากกว่าหนึ่งในแต่ละจุด โดยใช้ทำเป็นรางบนกำแพงหรือบนเพดานก็ได้
ไฟผนัง ( Wall Light)
แม้ จะเป็นไฟที่ไม่ค่อยเด่นเหมือนดาวน์ไลท์หรือ สปอตไลท์ แต่ก็มีให้เลือกหลายแบบเช่นกัน ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบสมัยใหม่ แบบดั้งเดิม มักจะอยู่ในรูปของโป๊ะที่ยื่นออกมาจากผนัง ส่วนแบบสมัยใหม่มีหลายแบบส่วนมากมักจะติดเป็นคู่ การกระจายของแสงขึ้นอยู่กับรูปร่างของโคม และไฟผนังเหมาะที่สุด สำหรับโต๊ะแต่งตัว โดยติดรอบกรอบกระจกแบบห้องแต่งตัวในโรงละคร โดยไม่ต้องมีโคมคลุม เพราะจะให้แสงสว่าง โดยไม่เกิดเงาบนใบหน้า

สวิทช์ไฟ นอกจากสวิทช์สีขาวแบบที่เห็นกันทั่วไปแล้ว ยังมีสวิทช์ไฟที่ออกแบบให้สวยงาม เหมาะสำหรับการตกแต่ง ให้เลือกหาเช่นกัน เช่น สวิทช์ทองเหลือง สวิทช์ไม้ เหล็ก หรือโครเมี่ยม ซึ่งคุณสามารถเลือกให้เข้ากับรูปแบบของการตกแต่งของคุณได้

ดิมเมอร์คอนโทรล
ไม่ ว่าจะเป็นไฟชนิดไหนประเภทไหนก็ตาม จะได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพขึ้น ถ้าคุณสามารถปรับระดับความเข้มของแสงได้ สวิทช์แบบดิมเมอร์ ติดตั้งง่าย และมีประโยชน์มากเป็นพิเศษในห้องที่มีประโยชน์ใช้สอยมากกว่าหนึ่ง (Multi-purpose Room) เช่น ครัวกับห้องอาหาร ที่รวมกันอยู่ ซึ่งต้องการแสงสว่างมากในจุดหนึ่ง และต้องการแสงที่นุ่มนวลกว่าในอีกจุดหนึ่ง

ไฟตั้งโต๊ะและตั้งพื้น
ไฟสองชนิดนี้เป็นทางเลือกที่เป็นที่นิยมกันมาก ทั้งสำหรับในส่วนทำงาน หรือเป็นไฟส่องสว่างทั่วไป และเป็นของแต่งบ้านได้เท่ากับเป็นของที่มีประโยชน์ มีให้เลือกมากแบบทั้งสีสัน รูปทรง ดีไซน์ และขนาด ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะกับการตกแต่งได้ทุกแบบ

โคมไฟตั้งโต๊ะ (Table Lamps)
โคม ไฟ ชนิดนี้ควรมีฐานที่หนักพอสมควร เพื่อจะตั้งได้อย่างมั่นคง และรับน้ำหนักของหลอดไฟและโคมได้ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ ผ้า หรือเปลือกหอย โคมไฟตั้งโต๊ะให้แสงที่นุ่มนวล และกระจาย แสงไฟมักส่องขึ้นข้างบน (แต่ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบของโคมด้วย) การวาง โคมไฟตั้งโต๊ะ ไว้หลาย ๆ อันรอบห้อง จะสร้างแสงและเงาที่ให้ผลในการสร้างบรรยากาศอย่างมาก จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ดีของการใช้แสงสำหรับทั่ว ๆ ไป

โคมไฟโต๊ะ ทำงาน (Desk Lamps) จุด ประสงค์ของมันก็คือการให้แสงสว่าง ตรงไปยังบริเวณที่ต้องการโดยเฉพาะ รูปแบบที่ถือว่าเหมาะที่สุดสำหรับไฟที่โต๊ะทำงาน คือไฟที่ปรับขาตั้งได้ ทำให้ได้ทิศทางของแสงตามที่ต้องการ

โคมไฟตั้งพื้น (Floor Lamps)
โคม ไฟแบบลอยตัว สำหรับตั้งพื้นช่วยในการเพิ่มระดับของการส่องสว่างที่สว่างพอสำหรับกิจกรรม ต่าง ๆ เช่น การอ่านหนังสือ ส่วนมากมักจะใช้ไฟฮาโลเจน เพราะให้แสงที่สว่างกว่า รูปแบบก็มีทั้งแบบ โคมไฟ ที่มีขาตั้งแบบเก่า แบบที่ไฟส่องขึ้นข้างบน แบบที่ปรับมุมได้ หรือบางทีก็ใช้สปอตไลท์ตั้งบนขาตั้ง โคมไฟตั้งพื้น ไม่จำเป็นต้องสูงมาก แต่อาจจะเป็นไฟที่วางไว้บนพื้นในระดับต่ำ ๆ เพื่อส่องสว่างให้กับกลุ่มต้นไม้ที่ใช้ตกแต่งภายใน หรือ ของตกแต่ง ที่อยู่บนพื้น หรือเพียงแต่เพิ่มความรู้สึกให้กับแสง
- ตรวจเช็คสายไฟและระบบไฟของคุณทุกห้าปี
- ระบบใดก็ตามที่เก่ากว่า 25 ปี ต้องเปลี่ยนใหม่
- อย่าทำให้เต้าเสียบไฟทำงานเกินกำลัง ด้วยการใช้เสียบปลั๊กหลายอันในคราวเดียว
- รีบเปลี่ยนสายไฟ หรือปลั๊กที่ชำรุด
- ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ห่างจากห้องน้ำ
- ทุกครั้งที่ทำอะไรเกี่ยวกับไฟ ต้องปิดคัทเอาท์เสียก่อนเสมอ
- ดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกก่อนที่จะทำอะไรกับมัน

ผนังบ้านกับสีทาบ้านและการเลือกใช้สี

สีทาผนังบ้าน

สำหรับผนังปูน ก็จะนิยมใช้สีน้ำพลาสติกที่มีส่วนผสมของอะคลีลิค 100%
หรือที่เราเรียกกันว่า สีน้ำอะคลีลิค นั่นเอง มีทั้งชนิด ด้าน และแบบ กึ่งเงา

สีด้าน จะดูสะอาด กระจ่างแต่ไม่กระจายแสง สีนวลใสแต่จะสกปรกง่าย

สีกึ่งเงา จะดูนวลเมื่อโดนแสงไฟหรือแสงแดด เช้ดทำความสะอาดได้ เงาเล็กน้อย
ลูบดูจะลื่นมือ ฝุ่นจะไม่ค่อยจับผนัง


การทาสีผนังต้องมีการเตรียมพื้นผิวดังนี้

ลอก ขูด หรือขัดทำความสะอาดสีเก่าออกให้หมดด่อน
ใช้กระดาษทรายบางขัดเบาๆ แล้วปัดฝุ่นออกให้หมด บางทีก็สามารใช้น้ำฉีดได้
ทาสีรองพื้นปูนเก่า สำหรับบ้านที่สร้างมานานกว่าห้าปี
สีรองพื้นปูนเก่าจะออกใสๆ ทารองพื้นรอบหรือสองรอบแล้วแต่พื้นผิว
ทาสีรองพื้นปูนใหม่ สำหรับบ้านที่สร้างมาไม่ถึงห้าปี สีรองพื้นปูนใหม่จะออกสีขาว
ทาสีจริงอย่างน้อยสองรอบแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง


สำหรับผนังไม้หรือส่วนที่สร้างจากไม้ ถ้าจะให้ทนทานรักษาง่ายก็มักทาด้วยสีน้ำมัน
หรือเป็นสีทาไม้โดยตรง ซึ่งจะทาด้วยสีย้อมไม้ตามชอบก่อนแล้วจึงทาสีเคลือบเนื้อไม้อีกที
สีทาไม้จะมีส่วนผสมที่จะรักษาเนื้อไม้ให้ปราศจาก ปลวก กันความชื้นและกันเชื้อรา

วิธีการทาสีไม้ ก็เริ่มจากการขัดเอาสีเก่าออกให้หมดแล้วทาสีย้อมไม้สองรอบ
จากนั้นทาสีเคลือบทับให้เงาและเป็นการป้องกันเนื้อไม้ด้วย


สำหรับส่วนที่ทำด้วยเหล็ก จะใช้สีน้ำมันทา อันนี้ต้องทารองพื้นด้วยสีกันสนิมก่อนแล้วทาสีจริงตามชอบ

วิธีทาสีเหล็กประตูหรือเหล็กดัด ก็ เริ่มจากการลอกสีเก่าออก ให้ใช้น้ำยาลอกสีเหล็ก
หลังจากลอกสีแล้วให้ขัดส่วนที่เป็นสนิมออกให้หมดก่อน ล้างทำความสะอาดตากให้แห้ง
จากนั้นก็ทาสีรองพื้นกันสนิม หรือถ้าสีที่ใช้มีส่วนผสมกันสนิมอยู่แล้วก็ไม่ต้องทาสีกันสนิม
แต่ทาสีจริงได้เลย ทาอย่างน้อยสองรอบแล้วทิ้งไว้มากกว่า 24 ชั่วโมงเพราะสีน้ำมันจะแห้ง
ยากและมีกลิ่นเหม็นมาก

อ้อ รอยร้าวต่างๆที่ไม่ได้มาจากโครงสร้างจะต้องทำการเซาะให้รอยแตกนั้นกว้างและลึก
ประมาณ 1 cm แล้วใช้อะคลีลิคอุดรอยร้าว จะออกเป็นหลอดที่เป็นครีมสีขาว บีบอุดรอย
ที่เซาะแล้วลูบให้เรียบไปตามแนวผนัง จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้งสนิทแล้วจึงทาสีรองพื้นทับแล้ว
ทาสีจริง เท่านี้รอยร้าวก็ถูกปกปิดแล้ว
สีบางชนิดอาจช่วยปกปิดได้แต่ก็จะไม่มิดถ้าไม่มีการอุดฉาบเสียก่อน ถ้าฉาบทับอย่างเดียว
หลังทาสีทับก็จะเห็นร่องรอย ฉะนั้นทำการอุดรอยร้าวก่อนทาสีจะได้ผลที่สุด


สีทาบ้านกับการเลือกใช้

เชื่อว่าสีของบ้านนั้นก็มีความสำคัญมากทีเดียว แต่ละคนก็มีความชื่นชอบสีที่ต่างกันไป
เราลองมาดูวิธีการเลือกสีให้บ้านเรากันดีกว่าค่ะ

ลักษณะทั่วไปของสีนั้นจะมีด้วยกัน 2 ประเภท ใหญ่ๆ

1. สีน้ำมันหรือสีเคลือบเงา ประเภทนี้ต้องใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวผสมทำให้เจือจาง
สำหรับทางานไม้หรือโลหะเพื่อความเงางามและทำความสะอาดได้ง่าย
สีประเภทนี้ถ้านำไปทาผิวปูนหรือพวกผิวไม้เทียม จะไม่ติดหรือติดบ้างแต่จะหลุดออกได้ง่าย

2. สีพลาสติกหรือสีอะครีลิค สีนี้จะใช้น้ำเป็นตัวผสมทำให้เจือจาง
เมื่อสีแห้งสีจะไม่เจือจางหรือหลุดลอกไปตามน้ำ
สีชนิดนี้เหมาะกับ พื้นปูนและพื้นคอนกรีตทั่วไปรวมทั้งกระเบื้องแผ่นเรียบด้วย

ลักษณะการใช้งานของสีทั้ง 2 ประเภทคือการใช้ทาภายในและภายนอก
คุณภาพความคงทนของสีก็ขึ้นอยู่กับราคาที่ต่างกันออกไปด้วย
แต่ละยี่ห้อก็จะมีหลายสีหลายเกรด ต่างกันไปด้วย
เช่น เกรด A B C ก็จะมีส่วนผสมของเม็ดสี อะครีลิค ลดหลั่นกันลงมาตามเกรด
รวมทั้งอายุการใช้งานด้วย ก็ลดหลั่นกันลงมาตามกัน

การเปรียบเทีนยสีว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากันนั้นต้องเอา เกรด ต่างๆ มาเทียบกัน
การตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณของเรา

คิดว่าเรื่องของสีทาบ้าน คงพอเข้าใจกันบ้างแล้วในการเลือกใช้ทีนี้ก็ไม่ต้องคิดมากแล้วเรื่องการหาสีให้บ้านเรา

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ Fengshui Bathroom

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ Fengshui Bathroom

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ Fengshui Bathroom

ห้องน้ำ ห้องส้วม มีบทบาทในแง่ฮวงจุ้ย ของระบบชมรมภูมิโหราศาสตร์ ดังนี้

1. ห้องส้วม เป็นสถานที่ขับถ่ายของเสีย ความหมายคือ

  1. เหม็น - เกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ดี มีปัญหา
  2. เหม็น - เกี่ยวกับชื่อเสียงไม่ดี

2. ห้องน้ำ ห้องส้วม เป็นบทบาทเคลื่อนไหว

ในแง่ดวงดาว 9 ยุค ( ต้องทราบองศาที่แน่นอน )

  1. หากห้องน้ำ เป็นตำแหน่งลาภที่ดี - ซึ่งต้องเคลื่อนไหว - ถือว่าดี - ได้ลาภ
  2. หากห้องน้ำ เป็นตำแหน่งลาภไม่ดี - ยิ่งเคลื่อนไหว ยิ่งเสียลาภ
  3. หากห้องน้ำ เป็นตำแหน่งบารมีที่ดี - ซึ่งต้องการนิ่ง
    - ยิ่งเคลื่อนไหว บารมียิ่งเสีย - สุขภาพจะป่วย หน้าที่การงานไม่ก้าวหน้า

บทบาทดวงดาวศึกษาได้จาก หนังสือ จัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ยุค 8


ในแง่ชัยภูมิ ฮวงจุ้ยห้องน้ำ

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ

ท่านผู้อ่านว่า ตำแหน่งใดตั้งห้องน้ำแล้วเกิดผลเลวร้ายมากที่สุด

และห้องน้ำตำแหน่งใดรองลงมา


.....

....

...


..


.

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ ห้องส้วม 2

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ ตำแหน่ง D

เป็นตำแหน่งประธานหลังบ้านโดยปริยาย

หากตำแหน่งนี้เป็น ห้องน้ำ เท่ากับบทบาทประธาน ไม่มีสภาพที่ดี
การงาน ชื่อเสียงไม่มั่นคง สุขภาพมีปัญหา ( ประเด็นหลัก )
การเงินมีปัญหา



ฮวงจุ้ยห้องน้ำ ตำแหน่ง A และ G

สมัยโบราณ จะไม่วาง ห้องน้ำ ไว้หน้าบ้าน เพราะถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
ทั้งในด้านความสวยงาม ความสะอาด กลิ่น การใช้งาน

แต่ในปัจจับัน ระบบสาธารณูปโภคห้าวหน้า ปัญหาเรื่องต่าง ๆ ล้วนแก้ไขได้
จึงไม่ต้องกังวลกับปัจจัยนี้มากนัก

แต่หากเป็นทิศทางลมพัดผ่าน ( ออกเฉียงเหนือ และตกเฉียงใต้ )
ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะกลิ่นอาจกระจายไปทั่วบ้านได้


ฮวงจุ้ยห้องน้ำ ห้องน้ำอยู่เหนือประตู

ไม่ค่อยดีนัก แต่ไม่ได้ให้โทษรุนแรง
เหมือนเราอยู่คอนโด เราไม่มีทางรู้เลยว่า เหนือหัวเราเป็นอะไร

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ 3 ห้องน้ำกลางบ้าน

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ กลางบ้านผังดาว 9 ยุค - ฮวงจุ้ยห้องน้ำ

จากภาพบน อาคาร A และ B แยกเป็นเอกเทศ

ห้องน้ำลักษณะดังกล่าว ไม่เป็น ฮวงจุ้ย ห้องน้ำกลางบ้าน
เป็นกลางด้านข้างอาคารเท่านั้น

ในแง่ชัยภูมิ ฮวงจุ้ยห้องน้ำ คือปกติ
แต่จะดีหรือไม่ ต้องวิเคราะห์ด้วย ฮวงจุ้ย ดาว 9 ยุค ระบบเฮี่ยงคง

( หนังสือ จัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ยุค 8 / ฮวงจุ้ยบ้าน Click )



สมมุติว่า อาคารนั่งพิง 0 องศา ทิศเหนือตรง

อาคารทางซ้าย A แบ่ง 9 ช่อง
ประตูเป็นดาว 8 8 ( ลาภเกื้อหนุนบารมี - ศัพท์เฉพาะชมรมฯ )
ห้องน้ำอยู่ตำแหน่ง 6 1 คือดี


อาคารทางขวา B แบ่ง 9 ช่อง ประตูเป็นดาว 8 8 เหมือนกัน
ห้องน้ำอยู่ตำแหน่ง 2 5 - ลาภวิบัติ - เลวร้าย มีแต่เรื่องเสียเงินทองมาก

Fengshuitown.com

ฮวงจุ้ย ห้องน้ำกลางบ้าน 2

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ - ห้องน้ำกลางบ้าน 2

จากภาพแรก เมื่อซื้อห้องติดกัน และทุบกำแพงทะลุถึงกัน ดังภาพ
ห้องน้ำ กลายเป็น ห้องน้ำกลางบ้าน

ในแง่ชัยภูมิ ฮวงจุ้ยห้องน้ำ คือ
ศูนย์กลางบ้านเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัว
เมื่อเป็นห้องน้ำ ศูนย์รวมไม่มี สุขภาพเจ้าบ้าน คนในครอบครัวป่วย
หน้าที่การงานมีปัญหา

ฮวงจุ้ยห้องน้ำกลางบ้าน ในแง่ดวงดาว
ไม่ว่าจะเป็นดาวอะไร ล้วนไม่มีผลดี
เพราะบทบาทชัยภูมิ ฮวงจุ้ยห้องน้ำกลางบ้าน ทำให้บทบาทเสียไปหมดแล้ว

การแก้ไข ฮวงจุ้ยห้องน้ำกลางบ้าน
ต้องทำให้แต่ละห้องแยกขาดออกจากกัน ( กลับไปเป็นอย่างเดิม )

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ 4

ทิศหันโถส้วม เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมากว่า ห้ามหันไปทางหน้าบ้าน
และเพิ่งได้ฟังประเด็นใหม่ ห้ามหันทางทิศตะวันตก

ข้อเท็จจริง : หัวโถส้วม หันไปทิศใดก็ได้ ไม่ห้าม

สิ่งที่สำคัญ คือ

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ หัวโถตรงประตูฮวงจุ้ยห้องน้ำ A

* ห้ามแนวประตู ตรงตำแหน่งหัวโถส้วม *

ความหมาย คือ จะนำเชื้อโรคออกจากห้องน้ำ
และหมายถึง ชื่อเสียงไม่ดี มีปัญหา

การแก้ไข : หาฉากมู่ลี่มาติดหน้าประตูห้องน้ำ
ฮวงจุ้ยห้องน้ำ หัวโถฮวงจุ้ยห้องน้ำ B

แม้ว่า หัวโถส้วม จะหันมาทางประตู ก็ตาม

เมื่อไม่ได้ตรงแนวประตู ก็คือปกติ
ไม่ต้องแก้ไขใด ๆ


Fengshuitown.com

Mackintosh สถาปนิกผู้ไม่เคยหลับไหล

Mackintosh สถาปนิกผู้ไม่เคยหลับไหล

Charles Rennie Mackintosh (1868-1928) ผู้ได้ชื่อว่าเป็นสถาปนิกชาวสก๊อตแลนด์ที่มีหัวก้าวหน้าและทันสมัยที่สุดแห่งยุค ผลงานอันเป็นที่รักยิ่งของ Mackintosh แฝงไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติก ทั้งการออกแบบอาคาร เฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่งภายใน ถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากต่องานของสถาปนิกในยุคช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20
Mackintosh เป็นหนึ่งในสถาปนิกของโลกเพียงไม่กี่คน ที่มีผลงานเป็นที่น่าจดจำและกล่าวขานถึงอย่างไม่เสื่อมคลาย ผลงานการออกแบบเก้าอี้ของเขาถือเป็นการรังสรรค์ผลงานที่มีสไตล์โดดเด่นและยังคงความเป็นอมตะมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งยังไม่นับรวมถึงผลงานการออกแบบอื่นๆ เช่น อาคารบ้านเรือน โบสถ์ โรงเรียนศิลปะ งานหล่อเหล็ก ลวดลายบนพื้นผ้า เป็นต้น แม้กระทั่งในช่วงท้ายของชีวิต Mackintosh ยังกลายเป็นจิตรกรเอกด้านสีน้ำ ผู้สร้างสรรค์ผลงานภาพวาดสีน้ำที่มีชื่อเสียงอย่างมากอีกด้วย
ผลงานออกแบบที่ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษานับร้อยชิ้น สะท้อนให้เห็นถึงพรสวรรค์และความสามารถของMackintosh ได้เป็นอย่างดี สไตล์ของเขามีลักษณะเฉพาะตัวอย่างชัดเจน เน้นที่การอวดลวดลายของรูปทรงเรขาคณิต ผสานเข้ากับองค์ประกอบของวิถีชีวิตของชาวสก๊อตแลนด์ ศิลปะหัตถกรรมของชาวอังกฤษ และรูปทรงของศิลปะแบบ Art Nouveau สมัยใหม่
เมื่อสิ้นสุดยุคของ Art Deco ผู้คนต่างแสวงหางานรูปแบบใหม่ๆ สถาปนิกและนักออกแบบจำนวนมากได้พยายามนำเสนองานออกแบบ “ใหม่” ที่แตกต่างจากงานที่เคยมีมา ยุคนั้นถือเป็นช่วงที่เป็นรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงจากงานแบบดั้งเดิมมาสู่ยุคปัจจุบัน รูปแบบที่โดดเด่นในยุคนั้นมักจะนำแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น ต้นไม้และดอกไม้มาใช้ในงานออกแบบรวมทั้ง อิทธิพลของประเทศในแถบตะวันออก เช่น ญี่ปุ่นก็ได้ สร้างสีสันให้กับยุคนี้ด้วยเช่นกัน
งานออกแบบงานออกแบบของ Mackintosh จัดว่าอยู่ในยุคหลังของ Art Nouveau โดย Mackintosh ได้ผสานความอ่อนช้อยของศิลปะแบบ Nouveau เข้ากับเส้นสายที่เรียบง่าย ทำให้เกิดเป็นความงามที่คลาสิค และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา
งานของ Mackintosh แบ่งออกได้เป็น 3 งานหลักๆ คือ อาคารทั่วไป บ้านส่วนตัว และ Tea room (ร้านน้ำชาที่มีบริการอาหารด้วย คล้ายกับ Cafe สมัยนี้) โดยเฉพาะงานห้องทานน้ำชาที่มีการออกแบบและตกแต่งภายในอย่างหรูหรานั้น ถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดของ Mackintosh เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นงานที่รวมเอา Art, Architect และ Design มาสอดผสานกันได้อย่างลงตัวกลมกลืมและสมบูรณ์ที่สุด ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถือเป็นยุคทองของ Mackintosh เพราะเขาได้เติบโตไปพร้อมกับเมือง Glasgow ที่กลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในยุโรป ด้วยการผลิตเรือและถ่านหินส่งออกไปทั่วโลก

กระจกลวดลายรูปทรงเรขาคณิต Willow Tearooms, Glasgow

ลักษณะการจัดไฟ Willow Tearooms, Glasgow
Mackintosh เกิดในปี 1868 เป็นบุตรของ Margaret และ William Mackintosh เติบโตในชนบทของเมือง Glasgow เข้าเรียนในโรงเรียนฝึกวิชาชีพ (Allan Glen’s Institution) และโรงเรียนสอนศิลปะ Glasgow School of Art ต่อมาในปี 1884 ช่วงที่ยังเป็นนักศึกษาได้มีโอกาสฝึกงานกับสถาปนิก John Hutchins และในปี 1889 ได้ร่วมงานกับบริษัทสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่าง Honeyman & Keppie

ทศวรรษที่ 1890 ถือเป็นช่วงแห่งการเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของ Mackintosh เขาได้มีโอกาสไปอิตาลี เข้าร่วมประชุมและบรรยายงานทางด้านสถาปัตยกรรมหลายครั้ง ได้พบมิตรสหายในวงการเดียวกันมากมาย ต่อมา Mackintosh พร้อมกับเพื่อนๆ Herbert McNair (เพื่อนสนิทสมัยอยู่กับ Honeyman & Keppie) Margaret Macdonald และ Frances น้องสาวของ Margaret (เพื่อนสมัยเรียนที่ Glasgow School of Art) จึงได้รวมกลุ่มทำงานทางด้านศิลปะ และเปิดแสดงผลงานของพวกเขาในเมือง Glasgow, London และ Vienna ผลงานได้รับการยอมรับและโจษขานไปทั่วยุโรป จนได้รับฉายาของกลุ่มว่า The Four ในปี 1900 Mackintosh ตัดสินใจแต่งงานกับ Margaret Macdonald เพื่อนในกลุ่ม Glasgow Four โดยตลอดชั่วชีวิตของเขา Margaret ก็ยังคงเป็นเสมือนเพื่อนผู้ร่วมงาน พร้อมที่จะสนับสนุนงานของเขาตลอดมา

Margaret Macdonald
ในปี 1896 ถือเป็นโอกาสทองในอาชีพสถาปนิกของ Macintosh เมื่อ Francis Newbery เพื่อนของเขาได้เชิญสถาปนิก 12 บริษัท เข้าร่วมแข่งขันออกแบบอาคารหลังใหม่ของ Glasgow School of Art ซึ่งหนึ่งในบริษัทเหล่านั้นคือ Honeyman & Keppie บริษัทที่ Macintosh ทำงานอยู่ในขณะนั้น และแน่นอนที่สุด Honeyman & Keppie ชนะการแข่งขันโดยมี Mackintosh เป็นดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบ ส่งผลให้ชื่อเสียงทางด้านการออกแบบของ Mackintosh เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
Glasgow School of Art
ห้องสมุด Glasgow School of Art
ในช่วงต่อมา Mackintosh เริ่มขยายงาน Scheme งานออกแบบของเขา โดยออกแบบตั้งแต่ห้องดนตรีให้ Fritz Warndorfer ในกรุงเวียนนา บ้านของนักข่าวชื่อดัง Walter Blackie ไปจนถึงงานตกแต่งภายใน อย่างเช่นในปี 1904 เขาได้ตกแต่งภายในให้กับ Hill House บ้านบนเนินเขาในเมือง Helenburgh ของ Kate Cranston (ผู้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่มสังคมของผู้ที่ชื่นชอบทานน้ำชา)
ภาพโปสเตอร์ตกแต่งห้องทานน้ำชาของ Miss Cranstons
เก้าอี้ในห้องดนตรี
เมื่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ งานทางด้านการออกแบบก็ลดน้อยลงไปด้วย Mackintosh เริ่มรู้สึกท้อแท้ใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นในปี 1913 เขาจึงได้ตัดสินใจลาออกจาก Honeyman & Keppie และเดินทางไปพักผ่อนกับภรรยาที่ Suffolk เมืองทางด้านตะวันออกของอังกฤษ ที่แห่งนี้เอง Mackintosh ได้กลับมามีชีวิตชีวาและเริ่มต้นงานใหม่ของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่งานออกแบบแต่กลับกลายเป็นงานภาพวาดสีน้ำ ฝีมือของ Mackintosh เข้าขั้นจิตรกรเอกเลยทีเดียว เขาได้วาดภาพทิวทัศน์และภาพดอกไม้ของเมือง Suffolk ที่เป็นที่เลื่องชื่อมากมายหลายภาพ
ในปี 1925 Mackintosh และภรรยาได้ย้ายไปอาศัยที่ Port Vendres ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เนื่องจากค่าครองชีพค่อนข้างต่ำ และในช่วงเวลาที่สงบสุขเช่นนี้เอง Mackintosh ได้สร้างสรรค์ผลงานภาพวาดสีน้ำที่มีชื่อเสียง แสดงถึงสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนและทิวทัศน์โดยรอบ Port Vendres
ในช่วงท้ายของชีวิต แม้ว่า Mackintosh จะหันหลังให้กับอาชีพงานออกแบบที่เขารัก เพราะรู้สึกท้อแท้และผิดหวัง แต่ถึงอย่างไรผลงานที่ Mackintosh ได้สร้างสรรค์ไว้ ได้กลายเป็นผลงานอมตะที่กล่าวขานกันไม่รู้ลืม นี่เองที่ทำให้ Charles Rennie Mackintosh เป็นหนึ่งในสถาปนิกและนักออกแบบที่สำคัญมากที่สุดคนหนึ่งของศตวรรษที่ 20

ผลงานการออกแบบของ Mackintosh ยังได้เป็นแรงบันดาลใจให้สถาปนิกกลุ่มต่างๆ จนทำให้เกิดกระแสของความเปลี่ยนแปลงในยุคต่อมา ซึ่งปรากฎในวงการออกแบบในอเมริกาที่เรียกว่า The Modern Movement นั่นเอง

การออกแบบองค์ประกอบของสวนภายในบ้าน

ตกแต่งบ้าน

การออกแบบองค์ประกอบของสวนภายในบ้าน

เมื่อออกแบบรูปแบบของการจัดสวนเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดสวนในพื้นที่จริง โดยเริ่มต้นจากการเตรียมพื้นที่ที่จะจัดสวน ด้วยการเตรียมพื้นที่ให้โล่ง แล้วกำจัดสิ่งกีดขวางที่ไม่จำเป็นออกให้หมด จากนั้นจึงทำการปรับพื้นดินบริเวณที่จะจัดสวนด้วยการรดน้ำให้พื้นดินเปียกชุ่มแล้วทำการบดให้เรียบด้วยลูกกลิ้ง เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ใช้ปูนขาวโรยในจุดที่จะวางสิ่งก่อสร้างต่างๆ จากนั้นจึงมาเตรียมต้นไม้ที่จะนำไปจัดสวน โดยพิจารณาเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ รวมทั้งคุณสมบัติต่างๆของต้นไม้ เช่นความต้องการความชุ่มชื่น ความต้องการแสง และความเข้ากันได้ของต้นไม้ชนิดต่างๆ ที่จะนำมาจัดสวน นอกจากต้นไม้ที่เป็นองค์ประกอบหลักที่นำมาจัดสวนแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ วัสดุปูพื้นต่างๆ และเฟอร์นิเจอร์ที่จะนำมาจัดวาง เพื่อให้การจัดสวนมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น วัสดุปูพื้นที่นำมาใช้ในการจัดสวน มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นทางเดินเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเหยียบลงไปบนสวน โดยมีวัสดุให้เลือกหลายอย่าง เช่น อิฐ กระเบื้อง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่นำมาเป็นส่วนประกอบเพิ่มเติมในการจัดสวนก็อย่าง เช่น เก้าอี้ หินประดับ รูปปั้น รั้วและสะพานต่างๆ

Tags: , , , , , , ,

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ถึงเวลาของ โอต์ กูตูร์ เฟอร์นิเจอร์แล้ว!

เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมถึงมี fashion แบบ haute couture บนรันเวย์แล้ว ถึงจะมีเฟอร์นิเจอร์แบบ haute couture ในบ้านของเราบ้างไม่ได้? เฟอร์นิเจอร์ high class สุดๆที่เรียกว่าผลิตกันนับชิ้นได้เพื่อมหาเศรษฐีสุลต่านเพราะมันถูกออกแบบ โดยแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Jean Paul Gautier โดยแบรนด์สุดหรูอย่าง Roche Bobois ซึ่งพิสูจน์ว่าแฟชั่นและฟังก์ชั่นสามารถมารวมกันได้อย่างลงตัว

Collection สุดหรูนี้ประกอบด้วยเตียงนอนแบบ paravent ซึ่งหัวเตียงบุด้วยเงินที่มีลวดลายสมัยยุคโรแมนติคระยิบระยับและโซฟาติดพื้น บุด้วยลายผ้าจาก Gautier ออกแบบโดย Hans Hopfer ที่สามารถนำมาต่อกันเพื่อนั่งรวมกันหลายคนได้ ให้ลุคของความเป็น urban-modern แบบอินตะระเดียถึงแม้ว่าสัดส่วนมันจะดูประหลาดไปหน่อยก็ตาม คุณว่ามั้ยคะ?

credit: http://www.forfur.com


วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เพิ่มสีสัน ใส่ไอเดียห้องนอน

เด็ก ๆ กับสีสันสดใสเป็นอะไรที่เข้ากันที่สุดค่ะ เพราะจะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกดี และมีความสุข ยิ่งถ้าได้เพิ่มสีสันเข้าไปให้กับห้องนอนของเด็ก ๆ แล้ว เค้าต้องมีความสุขมากขึ้นแน่ ๆ ค่ะ วันนี้ เราจึงขอนำเสนอไอเดียการแต่งห้องนอนเด็ก หรือลูก ๆ ของเพื่อน ๆ ให้สวยงาม และสดใสค่ะ ลองไปดูห้องนอนเด็กสวย ๆ กันเลยค่ะ

ห้องนอนเด็กห้องแรก เป็นการเพิ่มไอเดียเก๋ ๆ กับเตียงนอนสองชั้น

ห้องนอนเด็กสวย ๆ ห้องที่สอง เป็นการเพิ่มสีสันให้กับเพดานห้อง

ไอเดียการแต่งห้องนอนเด็ก ด้วยการวาดรูปตัวการ์ตูนที่น้อง ๆ ชอบที่ฝาผนังก็เป็นไอเดียที่เข้าถึงจิตใจเด็กได้เป็นอย่างดี

ห้องนอนเด็กห้องต่อมา เป็นการเพิ่มบรรยากาศการเข้าไปสู่โลกแห่งนิทาน ช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้กับหนู ๆ ทั้งหลายได้อีกด้วย

ไอเดียการแต่งห้องนอนเด็กผู้ชายห้องนี้ คงจะถูกใจหนู ๆ ที่ชอบรถยนต์จนไม่อยากลุกจากที่นอนแน่ ๆ ค่ะ

มาจาก : http://www.goodroomidea.com

จักรยานดีไซน์แปลกๆ ( ฟิกเกียร์อะป่าวเนี่ย !!! )

จักรยานดีไซน์แปลกๆ จากทั่วโลก














ในอดีตจักรยานเป็นยานพาหนะยอดนิยมในหมู่เด็กและวัยรุ่น อาจจะเคยเห็นคนอีกจักรยานเป็นกลุ่ม จนกระทั่งปัจจุบัน กาลเวลาเปลี่ยนไปคนเราก็อยากสบายมากขึ้น ทำให้เปลี่ยนไปเป็น มอเตอร์ไซค์ จึงเป็นเรื่องประหลาดไปเมื่อเราได้เห็นเด็กๆเป็นกลุ่มขี่จักรยานเล่นกัน ทำให้มีศัพท์เรียกเด็กๆ กลุ่มนั้น ว่า "แก๊งแฟนฉัน" แต่ปัจจุบันวิวัฒนาการของจักรยานก็เปลี่ยนรูปร่างไปทำให้น่าใช้มากขึ้น


































Credit : 121easy.com

The blog party by teem group

เริ่มต้นได้ท่วมท้นถล่มทลายมากค่ะ สำหรับบทความที่ทุกท่านส่งกันเข้ามา และเนื่องจากเป็นการเริ่มต้นเดือนแรกเราจึงเปิดขยายเวลาในการส่งบทความออกไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ รีบๆนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ส่ง
ส่วนสมาชิกชาวTeemblogที่ส่งเข้ามาแล้วทุกท่านก็เตรียมตัว enjoy the party ศุกร์ที่3 พ.ค. นี้ได้เลยค่ะ

จึงแจ้งมาเพื่อทราบ

Miss Mongers