1) ทาสีผนังขาวเรียบด้านหนึ่งเพื่อช่วยให้ห้องดูโปร่งสบายตา เลือกใช้วอลเปเปอร์ลายทางขนาดใหญ่สีเขียวอ่อนเพื่อช่วยลวงตาให้ห้องดูสูงขึ้นค่ะ หากไม้ใช้วอลเปเปอร์คุณก็อาจทาสีให้เป็นลายทางได้โดยค่อยๆใช้แถบกระดาษและเทปกาวมากันสีโดยวัดระยะห่างและติดเทปในแนวตั้ง จากนั้นจึงค่อยๆทาสีเขียวไล่ไปทีละแถบค่ะ หากล่องไม้อย่างง่ายหรือสามารถสั่งร้านไม้ให้ทำได้ในราคาที่ไม่แพงเลยค่ะ ทาสีเขียวให้เข้าชุดกัน และทาสีขาวด้วยเพื่อให้เกิดจังหวะการใช้สีที่เหมาะสม นำมาติดตั้งที่ผนังโดยการตอกตะปูแขวนได้เลยค่ะ ชั้นนี้สามารถวางหนังสือเรียน สมุดการบ้านของเด็กๆ หรือวางกระจุกกระจิกได้ค่ะ เลือกใช้เครื่องเรือนสีขาว และต้องเป็นเครื่องเรือนที่ “ลบมุมมน” เท่านั้นนะคะ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับเด็กๆ
2) หากห้องที่กั้นได้มีลักษณะแคบยาว การใช้เครื่องเรือนพับได้ก็เป็นทางเลือกสำคัญค่ะ เลือกใช้เตียงที่พับเก็บเข้าไปได้เพื่อประหยัดพิ้นที่ ติดตั้งวอลเปเปอร์ลายทางขนาดใหญ่ในแนวนอน เพื่อส่งเสริมให้ห้องดูลึกขึ้นค่ะ ดังนั้นสัดส่วนของโต๊ะหนังสือก็ควรจะแคบและยาวสอดเก้าอี้ เก็บได้เพื่อไม่ให้กินพื้นที่ค่ะม่านโปร่งสีเขียวจะช่วยสร้างบรรยากาศด้วยแสงสีเขียวอ่อนๆ อาบทั่วทั้งห้อง ลดความอึดอัดได้เป็นอย่างดี
หากมีพื้นที่เหลือก็อาจปูพรมนุ่มๆสีขาวอมเทาลงไปสักผืน ช่วยให้ห้องดูอบอุ่นน่าอยู่ขึ้น
3) หรืออาจเพิ่มเครื่องเรือนที่เป็นตู้เข้าไปสักชิ้นเพื่อให้เด็กสามารถแต่งตัวได้ภายในห้องค่ะ ลดพื้นที่เขียนหนังสือลงเป็นโต๊ะตัวเล็กๆ เตียงที่มีลักษณะคล้ายตั่ง มีระดับความสู้งเดียวกับเก้าอี้จะเชิญชวนให้เด็กมาอ่านหนังสือบนเบาะนุ่มๆนี้แทนค่ะ เตียงที่มีลิ้นชักใต้เตียงนี้อาจเป็นพื้นที่สำหรับเก็บของส่วนตัว หรือหากเตียงมีความแข็งแรงและขนาดเหมาะสมก็ใส่ฟูกสีขาวสะอาดเข้าไว้ข้างใน เพื่อจะได้เลื่อนออกมาเป็นเตียงสำหรับเด็กอีกคนในกรณีที่มีเพื่อนมาค้างบ้าน
4) ถ้าใครชอบสีสันสดใส ห้องนี้เป็นตัวอย่างของการเน้นสีสันบางจุด โดยใช้ผ้าที่มีลวดลายเดียวกันแต่มีเนื้อผ้าต่างกันในแต่ละจุด คือ ม่านโปร่ง ผ้าห่ม และพรมรองพื้นค่ะ เป็นการสร้างความต่อเนื่องของระนาบ พื้น เตียง และผนัง โดยการนำสายตาได้เป็นอย่างดี
5) สำหรับสีม่วง เป็นสีแห่งผู้รู้ ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย กระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ และสร้างความสงบในจิตใจได้เป็นอย่างดีค่ะ ลองเลือกใช้วอลล์เปเปอร์สีม่วงอ่อน สลับกับการตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสีขาวและผ้าบุเครื่องเรือนสีขาวลายทางเพื่อลดความน่าเบื่อ ของห้อง และอย่าลืมเลือกซื้อม่านโปร่งสีเดียวกันมาตกแต่งให้เข้าชุด
6) หากต้องการให้อารมณ์ของห้องอ่อนโยนลงสีม่วงไม่จัดจ้านลองเลือกใช้วอลเปเปอร์ลายทาง สีชมพูอ่อน และเนื้อผ้ากำมะหยี่สีม่วงอ่อนจะทำให้ห้องดูเป็นของสาวหวานไฮโซดูหรูหรา มีระดับขึ้นทันที
7) สีส้มเป็นสีแห่งความสร้างสรรค์ อบอุ่น สดใส มีสติปัญญา ความทะเยอทะยานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ในขณะเดียวกันก็แฝงความระมัดระวังไปในตัวค่ะ พลังของสีส้มช่วยคลายอาการหอบหืดและโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ช่วยรักษาความผิดปกติของม้าม ตับอ่อน ลำไส้ ทั้งยังช่วยในการดูดซึมอาหารของกระเพาะ และลำไส้ได้เป็นอย่างดีค่ะ การตกแต่งห้องด้วยสีส้มจะช่วยทำให้เด็กๆตื่นตัวที่จะเรียนรู้ ได้เป็นอย่างดีค่ะ นอกจากตกแต่งห้องด้วยวอลเปเปอร์และม่านโปร่งสีส้มที่เข้าชุดกันแล้ว ลองเลือกหาเครื่องเรือนเข้ามุมเอนกประสงค์เช่นตู้และชั้นดังในภาพ จะช่วยในการประหยัดพื้นที่ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้
*อย่าลืมเพิ่มเติมความสดใสของห้องสีส้มธรรมดาๆด้วยผ้าและพรมลายกราฟิกสีสันสดใสที่เข้าชุดกัน
8) ส่งท้ายแบบห้องนอนเด็กสีสันสดใสด้วยห้องนอนของเด็กโตค่ะ การจัดห้องอย่างในภาพจะช่วยให้เด็กเป็นคนรักการอ่านและขยันทำการบ้านค่ะ เนื่องจากลดความสำคัญของพื้นที่เตียงนอนลงไป อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับวางหนังสือโดยรอบค่ะ การเลือกใช้สีที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไปจะทำให้เด็กรู้สึกสงบ และมีสมาธิอย่างมากเชียวค่ะ หากห้องเป็นห้องแคบและสูงจะยิ่งเหมาะกับการจัดเตียงสองชั้นค่ะ ลองเลือกใช้วอลเปเปอร์ลายทางขนาดใหญ่แนวนอนสีอ่อนๆช่วยพรางตาให้ห้องดูกว้างขึ้น
ที่มา :http://www.forfur.com/blog/detail/449/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น