เมื่อปลายเดือนพฤษจิกายน ได้มีโอกาสไปพักที่ศรีพันวามาค่ะ ซื้อ voucher ไว้ตั้งกะงานท่องเที่ยวเดือนเมษาได้มั๊ง แต่ก็เกิดเหตุตลอด เลยเลื่อนมาเรื่อยๆ จนมาจองไว้ครั้งสุดท้าย 28-30 พฤศจิกา หมายหมั้นเหลือเกินต้องไปให้ได้ จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบิน air asia เรียบร้อย
ประมาณวันที่ 25 พ.ย. เราก็คุยกับสามีเรื่องที่จะไปศรีพันวา
คุณสามี : "หวังว่าคราวนี้คงไม่เกิดเหตุอะไรอีกนะ"
เรา : หัวเราะ เหอ เหอ "คงไม่มีไรอีกแล้วล่ะ"
แล้วเรา 2 คน ก็หัวเราะพร้อมกัน 5555
ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้น พันธมิตรยึดสนามบินคับท่านผู้อ่าน !!!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...นี่ชั้นจะไม่ได้ไปจริงๆเหรอ(วะ)
เง้อออ...เอาน่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเค้าก็คืน เค้าปิดไม่ได้นานหรอก เดี๋ยวก็ตกลงกันได้..
วันที่ 27 พ.ย. เหตุการณ์ยังไม่ดีขึ้น เริ่มแล้วคับ จะไปเช้าวันที่ 28 ทำไงดีเนี่ย สนามบินจะเปิดทันรึป่าว เราก็คุยกับสามี เตรียมทางออกอื่นๆไว้ เช่น ขับรถไป หรือ นั่งรถไฟ หรือ นั่งรถทัวร์ แต่ที่คิดกันไว้ คือ จะไม่ขอเลื่อนแล้วล่ะ ยังไงก็ต้องไป เหอ เหอ
สุดท้าย รีบกลับบ้านแต่หัววัน เพื่อเตรียมตัวไปขึ้นรถทัวร์ที่ขนส่งสายใต้ใหม่ ไม่สนแล้วว่าตกลง flight จะยกเลิกรึป่าว เพราะรอไม่ไหว เกิดรอถึงเช้า แล้วเพิ่งประกาศ flight cancel กว่าจะนั่งรถทัวร์ไปอีก ก็คงไปถึงภูเก็ตเย็นๆ ไม่ไหวแน่ เสียเวลา enjoy ที่พักสวยๆหมด 555
(สำหรับรีวิวทริปทั้งหมด จะแยกไปไว้ในหัวข้อ wonderful trip นะคะ ส่วนอันนี้จะเป็นรีวิว ศรีพันวา อย่างเดียวพอ)
และก็ต้องบอกว่า ทริปนี้เราโชคดีมากๆ เพราะ วันเสาร์ เราได้เจอคุณปลาวาฬ ซึ่งพอคุณปลาวาฬรู้ว่า เรา 2 คน นั่งรถทัวร์ร่วม 12 ชม.มาที่ภูเก็ต เค้าก็เลย offer ให้ที่พักฟรีอีก 1 คืน...เย้ๆๆๆๆ...งานนี้ไม่เอาไม่ได้แล้วค่ะ 555 รีบลางานต่ออีก 1 วัน (วันจันทร์) โชคดีที่ไม่ได้จองตั๋วรถทัวร์ขากลับไว้ (และ flight วันที่ 30 ก็ยังคงต้อง cancel ชัวร์ๆ) กลายเป็นว่า ได้อยู่ 4 วัน 3 คืน จากราคา 2 คืน 42,000 บาท กลายเป็น 3 คืน 42,000 บาท ... อู๊ยยย คุ้มสุดๆ...ต้องขอบคุณคุณปลาวาฬไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค๊า..
~~~~~~~~~~~
เอาล่ะ งั้นเรามาดูรูปที่พักกันเลยดีกว่าเนาะ..
ขอต้อนรับเข้าสู่ศรีพันวาค่า...
เริ่มตั้งแต่ lobby ซึ่ง lobby ที่นี่แปลกดีค่ะ เพราะต้องลงบันไดไปก่อน
แล้วในส่วน lobby นี่เอง ถ้าอากาศดีๆ เค้าก็จะเปิดหน้าต่าง รับลม เย็นสบาย แต่ถ้าอากาศร้อน ก็ปิดหน้าต่างเปิดแอร์
แล้วยิ่งถ้าเป็นตอนกลางคืน สามารถดัดแปลงเป็นบาร์เล็กๆ มีวงดนตรีสดๆมาเล่นได้ด้วย
เจ๋งดีค่ะ...ชอบๆ
ธีมสีของที่นี่จะเป็นเทา-ส้มค่ะ เพราะงั้นชุดโซฟาต่างๆ
ก็จะสีเข้าธีมหมด
เช็คอินเรียบร้อย เราก็ไปห้องพักกันค่ะ ตาม voucher ของเราเป็นราคา one bedroom แต่ว่าใน voucher เค้าจะ upgrade ห้องเป็น two bedroom ให้(โดยใช้แค่ห้องเดียว) ถ้าห้องว่าง เพราะห้อง two bed วิวจะดีกว่า one bed ค่ะ
เริ่มตั้งแต่เข้าประตูกันมาเลย
เข้ามาในวิลล่า ก็กว้างขวางมากค่ะ
ทางลงบันไดที่เห็น ก็คือ ลงไปห้องอีกห้องนึงค่ะ (แต่เราอยู่ชั้นบนค่ะ)
เข้ามาถึง ด้านขวามือจะเป็น pool และมีศาลาอยู่ซ้ายมือค่ะ
pool ที่นี่ใหญ่มากๆๆค่ะ ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยไปพักมา
ว่ายกันแบบสะใจไปเลยอ่ะ (ปกติจ้วงได้ 3-4 ครั้งก็ติดแล้ว)
ศาลาก็ใหญ่ดี ลมโกรก วิวก็สวย นอนอ่านหนังสือสบายสุดๆค่ะ
จากศาลามองกลับไปที่ห้องพัก
คือ แค่อยู่ข้างนอก ก็ยังถ่ายรูปไม่ยั้งแล้วอ่ะค่ะ
แบบว่า ยังไม่ได้เข้าห้องเลยนะ 555
เอาล่ะ..ทีนี้มาดูในห้องบ้างดีกว่า
ในส่วน living room กว้างขวางมากๆ โซฟาใหญ่ แบบนอนอีก 2 คนได้สบายๆ
มีโต๊ะทานข้าว นั่งได้ 3 คน
จาก living room สามารถลงสระน้ำได้เลย อิอิ
จริงๆที่ living room นี่มี LCD TV กับเครื่องเสียง ipod และ DVD พร้อมเลยนะคะ แต่เราถ่ายมามันสีดำๆ ไม่สวย (เพราะย้อนแสง) เลยไม่เอามาลงนะคะ
ถัดไปก็เป็น ห้องครัวค่ะ
สิ่งที่ปลื้มมากมายคือ น้ำดื่ม+เครื่องดื่มทุกอย่างที่มีให้ในตู้เย็น + ขนมต่างๆ + มาม่า พวกนี้ฟรีหมด และเติมให้ทุกวันค่ะ
เดินถัดเข้าไปจากห้องครัวก็จะเป็น closet ไว้เก็บเสื้อผ้า
และถัดไปก็เป็นห้องน้ำ มีประตูไม้ปิดเป็นสัดส่วนค่ะ (จะเลือกเปิดไว้ หรือปิดไว้ก็ได้)
ซึ่งห้องน้ำนี้จะมีทั้งโซน indoor ก็จะมี อ่างล่างหน้า 2 อ่าง (ไม่ต้องแย่งกัน อิอิ) shower และ toilet
และก็มีโซน outdoor มีทั้งอ่างแช่ตัว (มี bath salt กับใยบวบขัดตัวให้ด้วย) และก็ rain shower
และด้านนอกนี้เอง ยังมีเตียงผ้าใบ เผื่อใครสนใจจะนอนอาบแดด ดูวิวค่ะ
นอกจากนี้ ในห้องน้ำ ก็ยังมีอุปกรณ์ต่างๆครบครันค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหน ด้านใน ด้านนอก อ่างอาบน้ำ ก็มีพวกสบู่ แชมพูให้ครบหมด สมแล้วที่เป็น 5 ดาว อิอิ
มองกลับไปเห็นห้องนอน ล้อมรอบด้วยสระน้ำ สวยเชียว ...แบบว่าเค้าออกแบบดี๊ดี น้ำล้อมรอบห้องนอนเลยอ่ะค่ะ
วกกลับไปดูห้องนอนนิดนึงละกันนะคะ (จริงๆแทบไม่ต้องถ่ายห้องนอนเลยอ่ะ แหะ แหะ เพราะเห็นห้องนอนจากเกือบทุกมุม)
แต่ที่ชอบคือ ห้องนอนสามารถมองเห็นวิวได้ 3 ด้านเลยค่ะ แล้วถ้าอยากเปิดหน้าต่าง (3 บาน) รับลม ก็สามารถทำได้นะคะ ถ้ากลัวร้อน ก็ยังมีพัดลมเพดานด้วยค่ะ ทำให้ห้องนอนดูโปร่งมากๆ
และอย่างที่บอกตอนแรกว่าเราโชคดี ได้ห้องพักฟรีอีก 1 คืนนะคะ ซึ่งอีกคืนเนี่ย เผอิญต้องเปลี่ยนห้อง เพราะห้องเก่ามีคนจองไว้แล้ว แต่ก็ไม่เป็นปัญหา ดีเสียอีก ห้องใหม่ วิวใหม่ ชอบค่ะ อิอิ
เลยถือโอกาสถ่ายรูปอีกห้องมาให้ดูกันเลยนะ (ก่อนที่จะไปรีวิวส่วนอื่นๆต่อ เผื่อไม่ให้ขัดอารมณ์)
อีกห้องนึง จะเป็นโทนน้ำตาลอ่อนค่ะ ห้องก็เลยดูสว่างกว่า (แต่จะรู้สึกเก่ากว่านิดนึง เหอ เหอ)
ข้างหลัง จริงๆที่เป็นม่าน สามารถรูดเปิดได้นะคะ ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบาย ด้านบนก็มีพัดลมเพดานเหมือนกันค่ะ
ถ่ายในห้องให้ดูรวมๆนะ โทนสีจะคนละแบบกับห้องแรกอ่ะค่ะ
ก่อนจะไปดูส่วนอื่นต่อ ถ่ายด้านนอกอีกรูปละกัน อิอิ
+*~*~*~*~*~*+
ช่วงที่พักที่ศรีพันวา เราได้ทานอาหารที่นั่น 2 มื้อค่ะ
เลยถือโอกาสรีวิวร้านอหาร Baba ที่เป็นร้านอาหารร้านเดียว (ในปจบ)
ไปเลยในรีวิวนี้ละกันนะคะ
โซนด้านใน ก็ตกแต่งสวยงาม ใช้สีธีมเดียวกับที่ lobby คือ เทา-ส้ม
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ถูกเลือกมาอย่างดีค่ะ
นอกจากนี้ยังเห็นวิวทะเลสวยงาม
ยิ่งได้นั่ง chill chill ด้านนอก ลมเย็นๆ บรรยากาศดีมากๆค่ะ
ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=beauty-bambi&date=02-01-2009&group=1&gblog=15
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น