เลือกไม้อะไรปูพื้นดี
พื้นที่เป็นส่วนที่ต้องรับศึกหนักจากการกระแทก จึงควรใช้ไม้เนื้อแข้ง ซึ่งมีหลายชนิดมากทั้งของไทยและเทศ ขอแนะนำไม้ที่นิยมนำมาทำพื้นให้คุณตัดสินใจเลือกได้ตรงใจ โดยเรียงตามลำดับความแข้งจากมากไปน้อย
ไม้แดง
เนื้อไม้มีสีแดงเรื่อๆ ถึงสีน้ำตาลอมแดง เนื้อละเอียดพอประมาณ เนื้อเหนียวแข็งแรงและทนทาน แต่มีการขยายตัวมากที่สุดในบรรดาไม้ที่นิยมใช้ในบ้านเรา จึงต้องผ่านการอบมาอย่างดี หากปูพื้นต้องเว้นขอบพื้นให้ห่างจากผนังมากกว่าไม้ชนิดอื่น นิยมใช้ในส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้าง เช่น พื้น วงกบประตูหน้าต่าง เครื่องเรือน
ไม้ประดู่
เนื้อไม้สีแดงอมเหลืองถึงสีแดงอิฐมีความแข็งใกล้เคียงไม้แดง มีลวดลาย สวยงาม เนื้อละเอียดปานกลาง แต่งผิวและชักเงาได้ดี แต่คนไม่ค่อยชอบเพราะบางครั้งสีเป็นจ้ำๆ
ไม้เต็ง
แรกๆ เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อนแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่ แกมแดง เนื้อหยาบ แต่สม่ำเสมอ นิยมใช้ทำโครงสร้างคาน ตง และพื้น ในท้องตลาดมีทั้งไม้เต็งไทยและไม้เต็งมาเลย์ ซึ่งไม้เต็งไทยจะทนทานกว่า
ไม้มะค่า
เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลถึงสีน้ำตาลแก่และจะเข้มขึ้นเมื่อทิ้งไว้นาน มีเส้นเสี้ยนเนื้อค่อนข้างหยาบ แต่สม่ำเสมอเป็นมันเลื่อม เห็นลายไม้ชัดเจน ทนมอดทนปลวกได้ดี มีการยืดหดค่อนข้างน้อย
ไม้สัก ( บางตำราจัดเป็นไม้เนื้ออ่อน)
เนื้อไม้มีสีเหลืองทอง และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่ มีกลิ่นเหมือนหนังฟอกเก่าๆ มีจุดเด่นที่ลายไม้สวยงาม แต่หากใช้งานหนักจะเป็นร่องง่ายจึงควรเคลือบด้วยวาร์นิชที่ช่วยให้ไม้ทนการขัดถูมากขึ้น
เมื่อปูพื้น อย่าลืมบัวเชิงผนังล่ะ
บัวเชิงผนังคือขอบไม้หรือวัสดุอื่นที่กรุส่วนชายขอบพื้น เพื่อป้องกันรอยเปื้อนจากการใช้งานและการทำความสะอาดไม่ให้เปื้อนผนังจนดูน่าเกลียด ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี
1. ทาส่วนล่างของผนังด้วยด้วยสีน้ำมันซึ่งทำความสะอาดง่าย ให้สูงจากพื้น 7-10 เซนติเมตร เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด แต่ไม่ทนทาน
2. กรุขอบปนังด้วยไม้ กระเบื้อง หรือหินชนิดเดียวกับพื้น เป็นวิธีที่ติดตั้งสะดวก แต่ขอบจะนูนออกมาจากผนังเล็กน้อย.
3. กรุบัวเชิงผนังให้เรียบไปกับผนัง โดยฉาบปูนส่วนล่างของผนังให้เว้าเข้าไปตามความหนาขอวัสดุที่จะกรุ แล้วเซาะร่องกว้าง 5-10 มิลลิเมตร ก็จะช่วยให้ดูเรียบร้อยสวยงาม
ขอบคุณ หนังสือ ROOM ที่เอื้อเฟื้อสาระดีๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น