
หลักการพื้นฐานของเทคโนโลยี
บ้านประหยัดพลังงาน เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นการใช้ประโยชน์จากพลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัด และเป็นพลังงานที่ไม่สามารถทดแทนกันได้อยางคุ้มค่า โดยที่ยังตอบสนองความต้องการ และค่านิยมของยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์ โดยมุ่งเน้นการศึกษาวิเคราะห์แนวความคิดในการประยุกต์ใช้สภาพแวดล้อม ของภูมิอากาศแบบร้อนขึ้นมาช่วยผสมผสานกับเทคโนโลยียุคใหม่ และองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้อง แล้วนำมาสร้างเป็นสถาปัตยกรรมที่เหมาะสมกับเขตร้อนชื้นของประเทศไทยเรา ด้วยกรรมวิธีที่ทำให้สามารถประยัดพลังงานได้มากกว่าบ้านทั่วไปหลายเท่า โดยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและราคาไม่แพงไปกว่าบ้านที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน
แนวความคิดในการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน
1.การเลือกใช้ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับที่ตั้งอาคาร คือการใช้ตัวแปรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่ตั้งอาคารเพื่อทำให้สภาพแวดล้อมของบ้านเย็นลงกว่าเดิม
2.การเลือกที่ตั้งและทิศทางของอาคาร คือการสร้างสรรค์สภาพแดวล้อมให้เย็นเพื่อลดความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิภายในและภายนอก ซึ่งก็คือให้ตัวบ้านสามารถสกัดกั้นความร้อนจากภายนอกได้มากที่สุด ซึ่งรวมถึงการออกแบบช่องเปิดและการควบคุมการรั่วซึมของอากาศ
3.การพิจารณาออกแบบและเลือกระบบเปลือกอาคาร คือการเลือกระบบผนังที่สามารถป้องกันความร้อนและความชื้นได้ดี เพราะวัสดุแต่ละชนิดที่ใช้เมื่อนำมาวิเคราะห์แล้วจะพบว่ามีความแตกต่างกันมาก
4.การพิจารณาเลือกระบบที่มาใช้ภายในอาคาร คือการเลือกสรรวัสดุที่มีค่ากักเก็บความร้อนและความชื้นน้อย เช่น วัสดุผิวมัน วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ไป พร้อมกับการเลือกใช้เครื่องเรือนเท่าที่จำเป็นและเลือกใช้ชนิดที่มีน้ำหนักเบาและไม่ดูดความชื้นด้านอุปกรณ์ควรใช้ที่มีประสิทธภาพสูงและใช้พลังงานน้อย
5.อาคารที่พึงปรารถนา โดยตัวบ้านที่ออกแบบตามแนวคิดข้างต้นก็ยังไม่สามารถควบคุมสภาวะแวดล้อมภายในได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ แต่การออกแบบบ้านตามแนวคิดดังกล่าวก็จะใช้เครื่องปรับอากาศเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประโยชน์ของการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน
>> ลดภาระของระบบปรับอากาศภายในบ้าน
>> ส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์และใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
>> สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมให้อยู่ในเขตสบายตามความต้องการ ก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย
บทความจากตั้มค่ะ
ที่มา : http://www2.dede.go.th/bhrd/web_display/home/home_design.html


เทคนิคที่ว่านั้นคือการใช้ "หม้อ" ในการเจียวไข่ นอกจากเราไม่ต้องกลัวรูปร่างไข่จะไม่สวยแล้ว เรายังสามารถทำให้มันฟูและหนาได้ตามความต้องการ โดยไม่ใช่ตัวช่วย หรือสารประกอบใดๆทั้งสิ้น
นำหม้อใส่น้ำมันพืช แล้วนำไปตั้งไฟ พอให้เริ่มมีควันเล็กน้อย ไม่ถึงกับควันโขมงนะ 
ปรุงรสด้วยซีอิ็วขาวเพียงอย่างเดียว แล้วตีเร็วๆ ให้เข้ากัน
ตีเสร็จแล้ว อย่าวางทิ้งไว้ รีบเอาลงกระทะเลย ฟองอากาศมันจะได้ยังแฝงตัวอยู่ในเนื้อไข่ ไม่ลอยขึ้นมาจนหมด
จำไว้ว่า ถ้าอยากได้ไข่ที่ฟูกรอบ น้ำมันจะต้องมากพอ แต่ก็ต้องไม่มากเกินไป และต้องร้อนระดับควันขึ้นฉุยๆ แต่ไม่ใช่ควันโขมง
นับ 1
2
3
เมื่อเทไข่ลงไป ก็จะได้ผลอย่างที่เห็นในรูป มันฟูออกมาพอดีๆหม้อ เป็นไข่เจียวกลมๆหนาๆที่แสนน่ากิน
กลับแล้ว 1 รอบ
ทอดไปสักครู่ จนเริ่มเห็นว่าผิวด้านบนของไข่ เริ่มแห้ง
ผมพลิกอีกครั้งหนึ่ง เพราะไข่เจียวด้านแรก มักจะสวยกว่าอีกด้านเสมอ
เสร็จแล้วช้อนขึ้นมาโลด
เอามาวางไว้บนตะแกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมัน ถ้าเป็นไข่แบบบีบมะนาว รับรองแฟ่บตั้งแต่ตักขึ้นจากกระทะ
ด้านข้าง ของเจ้าไข่เจียวทอดหม้อ ฟูแล้วไม่แฟ่บ
การใช้หม้อทอดไข่ เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ทุกข้อเลยครับ ทั้งความง่ายในการทอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลับไข่ ที่ทุกคนเป็นห่วง เพราะดูแล้วหม้อมันจะคับแคบ และกลับยาก แต่ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คิดครับ เพราะไข่จะลอยอยู่บนน้ำมัน และไม่ได้แตะก้นหม้อแต่อย่างใด ดังนั้นการกลับก็แค่ใช้ตะหลิว หรือแม้กระทั้งช้อนกินข้าวนี่ล่ะ ตลบมันกลับอีกด้าน ไม่ต้องกลัวมันแตกหรือขาดอย่างเวลาใช้กระทะทอดด้วยครับ คือทำอย่างไรมันก็จะเป็นรูปกลมๆหนาๆ น่ากินเช่นนี้เสมอๆ นอกจากจะฟูแล้วไม่แฟ่บ มันยังมีเนื้อไข่สีเหลืองๆนุ่มๆให้เราได้สัมผัสด้านในด้วย ไม่ใช่ว่าฟูกรอบจนไม่เหลือเนื้อไข่นะ แบบนี้สิ ไข่เจียวในฝันเลยยย
เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมม