การตกแต่งห้องนอน
หลักในการออกแบบตกแต่งบนพื้นฐาน 3 ประการ
- ความสะอาดและปลอดโปร่ง
- ประโยชน์ใช้สอยและความสะดวกสบาย
- ความสวยงามตา
ความรู้ในด้านการตกแต่งภายใต้พื้นฐานได้แก่
- รูปแบบหรือสไตล์ การตกแต่ง การ เลือกรูปแบบหรือสไตล์การตกแต่งนั้น จึงเป็นเรื่องขอรสนิยมส่วนบุคคลเป็นสำคัญ โดยทั้งนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้สอดคล้องกลมกลืนกับการตกแต่งโดยรวมของ บ้านก็ได้ แต่การตกแต่งควรตั้งอยู่บนพื้นฐานดังกล่าวข้างต้นและมีความเหมาะสมกับการพัก ผ่อน
๑. Classic Style เป็นรูปแบบการผสมความงานในยุคอดีต เช่น กรีก โรมัน หลุยส์ ไทยโบราณ ด้วยการเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่แตกต่างกันไป เช่น บัวที่มีลวดลายวิจิตร ประดับด้วยลายแกะสลัก ลวดลายตามซุ้มประตู หน้าต่าง การใช้ผ้าม่านที่มีสี และลวดลายต่างๆ เป็นต้น
๒. Modern style เป็น รูปแบบสมัยใหม่มักเน้นลวดลายเรขาคณิต การตัดทอนรายละเอียดปลีกย่อยออกไป ให้เหลือแต่ความเรียบด้วยลวดลายเพียงไม่กี่เส้น และโชว์เนื้อแท้ของวัสดุ เช่น ความมันวาวของโลหะ หรือวัสดุผิวด้าน มักใช้สีโทน ขาว ดำ และโทนสีสดใส
๓. ร่วมสมัย Style การ ตกแต่งไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัว เนื่องจากเป็นการผสมผสานของหลายรูปแบบอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้สอย การใช้สีมักเน้นที่ความอ่อนหวานและอบอุ่นเป็นสำคัญ
๔. country style สไตล์ พื้นบ้าน เป็นลักษณะการตกแต่งแบบชนบทของแต่ละประเทศ มักมีลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่มีลักษณะเด่นร่วมกันคือ การใช้วัสดุของตกแต่งในท้องถิ่นที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งให้บรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย
- การ จัดวางเครื่องเรือน โดยทั่วไปขนาดหรือพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนมักกำหนดไว้แค่ให้เพียงพอกับการ พักผ่อนและประกอบกิจกรรมส่วนตัว ยกเว้นในห้องนอนที่เรียกว่า Master Bedroom ที่ อาจกำหนดการใช้สอยที่เพิ่มเติมขึ้นแม้แต่ห้องนอนทั่วไปจะมีเครื่องเรือนเท่า ที่จำเป็นเพียงไม่กี่ชิ้นแต่การจัดให้เกิดความลงตัวและใช้สอยได้ประโยชน์ไม่ ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องพิจารณาถึงขนาด ประโยชน์ใช้สอย รูปร่างของห้อง สัดส่วนของเครื่องเรือน ผนังทึบ หน้าต่าง ประตู ซึ่งเราไม่สามารถขยับไปไหนได้ ทำให้เราต้องแก้ปัญญาภายหลังการก่อสร้าง สิ่งเหล่านี้ต้องมีการวางแผนรูปแบบตำแหน่งให้เหมาะสมก่อนกรณีเราสร้างบ้าน ใหม่ แต่สำหรับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้วิธีการที่ง่ายที่สุดของการจัดเครื่องเรือน อาทิ เตียง ตู้เสื้อผ้า ให้ชิดกับผนังด้านทึบ แต่ถ้ามีผนังทึบน้อยให้คำนึงถึงเครื่องเรือนหลักก่อนได้แก่เตียงนอน จัดให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมก่อนแล้วจึงจัดส่วนอื่นตามลงมา
- การ กำหนดโครงสีในการตกแต่ง ในคำนึงพื้นฐานที่ว่า ห้องนอนคือห้องพักผ่อน ดังนั้นการกำหนดมักกำหนดสีโทนเย็น และมักใช้สีที่ค่อนข้างอ่อนหวาน สว่างสดใส หรือตามรสนิยมของผู้อาศัย อาจพิจารณาในเรื่องของอายุ เพศด้วย
๑. โครง สีหลัก เป็นสีที่ใช้กับพื้นที่ส่วนใหญ่ อันได้แก่ เพดาย ผนัง พื้น ในการเลือกโดยให้มีความใกล้เคียงกัน หรือการกำหนดให้ห้องมีโครงสีหลักโทนสีเย็น หรือร้อนเป็นต้น
๒. โครง สีรอง เป็นสีช่วยเสริมให้ห้องแลดูไม่จืดชืดจนเกินไป ส่วนใหญ่ก็เป็นสีที่ใช้กับผ้าบุเครื่องเรือน ผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียง การเลือกอาจเลือกโทนสีที่เข้ากลับสีหลัก หรือโทนตรงข้ามกัน โดยโครงสีรองกำหนดสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 20-25 % ของโครงสีหลัก
- การ เลือกวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆในห้อง โดยทั่วไปมักจะพิจารณาจากความเหมาะสมและสอดคล้องในด้วนประโยชน์ใช้สอย ให้เกิดคุณค่าและความงามมากที่สุด มีความปลอดภัย ทนทานต่อการใช้งาน สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป ซึ่งจะต้องเหมาะสมกับคุณสมบัติของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆนั้นด้วย
- ไฟฟ้าและแสงสว่าง ไฟฟ้าและแสงสว่างภายในห้องนั้น จัดไว้เพื่อความสมบูรณ์ในการใช้สอย ระบบไฟฟ้าที่ใช้ในห้องนอนนั้นจะประกอบด้วย
๑. ไฟฟ้ากำลัง เพื่อการใช้งานของอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งโดยจะกำหนดเต้าเสียบไว้บริเวณใช้งาน เช่นหัวเตียง ส่วนแต่งตัว
๒. ไฟฟ้า แสงสว่าง หมายถึงหลอดไฟส่องแสงโดยมักกำหนดไว้ที่ฝ้าเพดานกลางห้อง หรือบริเวณหัวเตียง หรือความสว่างเชิงบรรยากาศ การเดินสายภายในห้องนั้นก็ควรกระทำอย่างเรียบร้อย เพื่อความสวยงามและปลอดภัย สะดวกแก่การดูแลซ่อมแซม
๓. การติดตั้งดวงโคม
i. การ ติดตั้งแบบฝังในฝ้า สามารถติดตั้งได้ทั้งหลอดฟลูออเรสเซนต์และหลอดใส้ ดาวไลท์ ส่วนใหญ่มักติดตั้งภายในอาคาร ตำแหน่งควรติดตั้งในบริเวณที่ไม่มีการกีดขวางของท่อต่างๆ คาน โครงฝ้า เป็นต้น
ii. การติดตั้งโคมแบบห้อย ติดตั้งด้วยการยึดห้อยกับเพดานสูง เช่น โคมระย้า การติดตั้งต้องมีความแข็งแรงและปลอดภัยเป็นหลัก
iii. การติดตั้งแบบธรรมดา คือการติดผนัง เพดาน ทั่วไป ในการติดผนังนั้นเป็นการเน้นเฉพาะจุด ด้วยการใช้แสงสะท้อนทำให้เกิดบรรยากาศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น